นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 1,480,741 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่าย โทรศัพท์AIS แจ้งว่าผู้เสียหายได้ทำการเปิดหมายเลขโทรศัพท์ผิดกฎหมาย และโอนสายไปให้สนทนากับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และบัญชีธนาคารของผู้เสียหายถูกใช้ในการฟอกเงินคดียาเสพติดในพื้นที่ชายแดน จากนั้นขอตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชี หากไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิดตามกฎหมาย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป ภายหลังการโอนเสร็จไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 1,989,574 บาท ผู้เสียหายได้รับข้อความ SMS จากมิจฉาชีพผ่านช่องทางโทรศัพท์แจ้งว่าพัสดุของท่านจัดส่งไม่สำเร็จ เนื่องจากเกิดความเสียหายขึ้น และจะโอนเงินค่าสินค้าคืนให้ Flash Express ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดลิงก์ไปจากนั้นเพิ่มเพื่อนทาง Line อัตโนมัติ มิจฉาชีพอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ Flash Express ให้ดำเนินการทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่แนะนำจนเสร็จสิ้นขั้นตอน ต่อมาภายหลังได้รับข้อความ SMS จากธนาคารแจ้งว่ายอดเงินในบัญชีได้ถูกโอนออกไปจนหมด
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้กู้เงิน มูลค่าความเสียหาย 826,663 บาท ผู้เสียหายพบโฆษณาสินเชื่อกู้เงินง่ายผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียด จากนั้นได้เพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพให้กรอกข้อมูลและแจ้งว่าให้โอนเงิน เพื่อเป็นค่าประกันสินเชื่อ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป แต่ไม่สามารถถอนเงินกู้ออกมาได้ มิจฉาชีพแจ้งว่าผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวผิดพลาดระบบจึงทำการล็อกรายการไว้ให้โอนเงิน เพื่อขอรหัสแก้ไข ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปให้อีกครั้ง จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก