สมเด็จพระเจ้าเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และสมเด็จพระราชินีเลติเซีย ทรงถูกประชาชนผู้โกรธแค้นและเพิ่งรอดตายจากมหันตภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรง ต่อต้านและขว้างปาก้อนโคลนและสิ่งของเข้าใส่พระองค์ทั้งสอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024 ขณะที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินให้กำลังใจชาวเมืองไปปอร์ตา ในแคว้นปกครองตนเองบาเลนเซีย อันเป็นพื้นที่ศูนย์กลางแห่งหายนะซึ่งมีเหยื่อวิกฤติภัยธรรมชาติถูกคร่าชีวิตไปแล้วมากกว่า 217 ราย เอเอฟพีรายงาน
พระภูษาทรงของคิงเฟลิเปที่ 6 ทรงเลอะเทอะด้วยเศษโคลนตมไปทั่ว ส่วนควีนเลติเซียทรงได้รับผลกระทบเพียงเศษกระเซ็นของโคลนบนพระพักตร์ กระนั้นก็ตาม ทั้งสองพระองค์ทรงสงบและนิ่ง โดยทรงพยายามพูดคุยอธิบายข้อมูลต่อผู้ประท้วงบางรายที่มีโอกาสจะสนทนากันได้ เพื่อจะบรรเทาความเกรี้ยวโกรธเจ็บแค้นว่าทางการไร้ประสิทธิภาพในการป้องกันแก้ไขวิกฤติการณ์น้ำท่วมดุเดือดในห้วง 5-6 วันที่ผ่านมา
ขณะที่พระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งสเปนทรงถูกฝูงชนที่คลุ้มคลั่งระดมขว้างปาโคลนและสิ่งของต่างๆ อาทิ กระป๋องเครื่องดื่ม อีกทั้งทรงถูกตะโกนหมิ่นพระเกียรติยศ ด้วยคำว่า “พวกฆาตกร” และคำดูหมิ่นต่างๆ ขณะเสด็จพระราชดำเนินให้กำลังใจแก่ประชาชน และตรวจสถานการณ์ตามถนนหลายสายของเมืองไปปอร์ตาซึ่งยังจมอยู่ในโคลนตม แต่เป้าหมายหลักของการประท้วงต่อต้านนั้น เน้นไปที่นายกรัฐมนตรีเปโดน ซันเชซ แห่งสเปน ตลอดจนนายคาร์ลอส มาซอง ประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย เอเอฟพีรายงานอย่างนั้น
ด้านเดลิเมลออนไลน์รายงานว่าแม้ควีนเลติเซียทรงถูกเศษกระเซ็นเปื้อนพระพักตร์บ้าง แต่ราชองครักษ์นายหนึ่งซึ่งอยู่ในคณะถวายความปลอดภัย ถึงกับได้แผลแตกที่หน้าผาก เลือดไหลนองลงมาไม่ใช่น้อยๆ
ไปปอร์ตา เมืองชายขอบของแคว้นบาเลนเซีย เป็นศูนย์กลางของอุทกภัยอันหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบหลายทศวรรษของสเปน โดยผู้เสียชีวิตในอุทกภัยมหาวิบัติที่เมืองไปปอร์ตาแห่งเดียว ก็สูงกว่า 60 ชีวิต ส่วนการค้นหาผู้สูญหายก็อยู่ในภาวะหมดหวัง ดังนั้น สถานการณ์วุ่นวายทั้งหลายจึงผุดขึ้นจากความโกรธแค้นต่อปฏิบัติการแก้ปัญหาของภาครัฐที่ฝ่ายต่างๆ ชี้ว่าลงมือน้อยเกินไป และช้าเกินไป
นายกฯ สเปน และประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย ตามเสด็จคิงและควีนแห่งสเปนแค่เพียงพักเดียว แล้วก็แวบหายไปหลบอยู่ในรถประจำตำแหน่ง ขณะที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยดึงหน่วยคุ้มกันพิเศษเข้าประจำที่ตรงกลางเพื่อกั้นพระเจ้าแผ่นดินและพระราชินีให้ปลอดภัยจากกลุ่มผู้ต่อต้าน
คณะตำรวจช่วยกันล้อมวงถวายคุ้มครองอย่างตึงเครียด โดยเน้นเพียงการคุ้มกัน และหลีกเลี่ยงที่จะกระทบกระทั่งโต้ตอบกับฝูงชน แท็กติกที่นำมาใช้มีเพียงการกางร่มกั้นไม่ให้ก้อนโคลนและสิ่งของต่างๆ ลอยมาถึงพระวรกายแห่งคิงและควีน โดยมีตำรวจบนหลังม้าร่วมกันผลักดันฝูงชนหลายสิบรายให้ถอยออกห่างขบวนพระราชดำเนิน ฝูงชนกว่าครึ่งร้อยจึงยิ่งทวีความเกรี้ยวกราด เร่งขว้างก้อนโคลน และชูพลั่วบ้าง ไม้บ้าง ขึ้นโบกอย่างว้าวุ่น โดยหมายจะคุกคามและประท้วง
ในการนี้ คิงเฟลิเปและควีนเลติเซียทรงสงบ ทรงนิ่ง และทรงอดทนอดกลั้น ทรงไม่มีบรรยากาศโกรธเคืองแม้แต่น้อย เมื่อทรงมีโอกาสตรัสกับชาวบ้านกลุ่มที่รอรับเสด็จ ทั้งสองพระองค์ทรงไต่ถามอย่างใส่พระทัย และเช่นกัน เมื่อทรงมีโอกาสชี้แจงต่อผู้ประท้วง ก็ทรงประทานคำอธิบายต่างๆ เดลิเมลออนไลน์นำเสนออย่างนั้น
ในจำนวนผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 217 รายนั้น เกือบทั้งหมดอยู่ในแคว้นบาเลนเซีย ขณะที่กำลังสนับสนุนด้านความปลอดภัยและด้านการช่วยเหลือเหตุด่วนเหตุร้ายรวมหลายพันรายก็หลั่งไหลเข้าสู่บาเลนเซีย
นายกฯ เปโดร ซันเชซ ซึ่งถูกหน่วยคุ้มครองพาตัวออกจากสถานการณ์การต่อต้านโดยชาวเมือง ได้เขียนขึ้นโซเชียลมีเดียว่าวิกฤติการณ์ครั้งนี้เป็นอุทกภัยที่อันตรายที่สุดอันดับสองของยุโรป ณ ศตวรรษปัจจุบัน
กระนั้นก็ตาม ประชาชนโกรธมากที่ภาครัฐเพิ่งจะประกาศเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่มวลน้ำอันมหาศาลไหลบ่าเข้าทำลายล้ายเมืองไปปอร์ตาเรียบร้อยแล้วราวสองชั่วโมง
ยิ่งกว่านั้น ความแค้นใจทวีตัวมหาศาล เพราะประชาชนเห็นว่าทางการไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์หลังน้ำท่วมได้รวดเร็วเพียงพอ
มวลน้ำได้ทะลักเข้าท่วมเข้าเมืองเข้าสู่บ้านเรือน ตลอดจนอาคารต่างๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า และทิ้งโคลนและซากปรักหักพังไว้เป็นหลายเลเยอร์
ผู้ประสบอุทกภัยพากันประกาศว่า
“พวกเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างหมดสิ้นแล้ว”
ด้านกษัตริย์เฟลิเปทรงมิได้หวั่นกลัวผู้ต่อต้านพระองค์ แม้นายกฯ สเปน แวบกายไปกับหน่วยคุ้มครองแล้ว แต่พระองค์และพระราชินียังทรงเดินหน้าพบปะพสกนิกร ทรงพูดคุยกับทั้งผู้ที่รอเข้าเฝ้าและผู้ที่ปักหลักประท้วง
คิงแห่งสเปนทรงโอบบ่าของชายหนุ่มสองคน แถมด้วยการสวมกอดให้กำลังใจ ซึ่งกลายเป็นรอยเปื้อนโคลนแห่งความประทับใจที่ปรากฏนาบแผ่นหลังของเสื้อฝนของพระองค์ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ของสถานี RTVE รายงานว่าสตรีคนหนึ่งร้องไห้ และกราบบังคมทูลคิงเฟลิเปว่าเธอไม่มีอาหาร ไม่มีผ้าอ้อมให้ลูก
นอกจากนั้น ประชาชนอีกรายหนึ่งกราบบังคมทูลว่า
“โปรดทรงช่วยเหลือพวกเราด้วย โปรดทรงอย่าทอดทิ้งพวกเรา”
ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่คิงเฟลิเปและควีนเลติเซียตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ชาวเมืองไปปอร์ตา จึงเป็นห้วงแห่งความตึงเครียดนานครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเป็นโอกาสให้ประชาชนได้ตระหนักถึงน้ำพระทัยยิ่งใหญ่แห่งพระมหากษัตริย์ของชาวสเปน
พร้อมนี้ รัฐบาลกลางได้อนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติม ได้แก่ กองกำลังทหารอีก 5,000 นาย และกองกำลังตำรวจกับทีมช่วยเหลือภาคเอกชนอีก 5,000 นาย เพื่อดำเนินงานฟื้นฟูสภาพเมืองและหมู่บ้านทั้งปวงที่เสียหายจากอุทกภัยนี้ที่ทำลายถนน สะพาน กระทั่งว่าชุมชนมากมายถูกตัดขาดจากอาหาร น้ำดื่ม และพลังงานไฟฟ้า นับจากเมื่อวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2024
ขบวนเสด็จเคลื่อนออกจากเมืองไปปอร์ตาด้วยความเรียบร้อย โดยมีข้อยกเว้น คือ กรณีรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกฯ ซันเชซ ซึ่งยับเยินแทบจะทั้งคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระจกหลังถูกฟาดกระหน่ำจนเละไปทั้งบาน
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอเอฟพี เดลิเมลดอทคอม เอพี)