xs
xsm
sm
md
lg

PLANET#3: ระทึก!! คิงและควีนสเปน ทรงถูกเหยื่อน้ำท่วมกลุ่มหัวร้อนระดมขว้างปาด้วยก้อนโคลน โดยมีร่มคุ้มกันคันเดียว ทรงไม่โต้ตอบแม้มอมแมมทั่วองค์ ขณะเสด็จเยี่ยมบาเลนเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


พระพักตร์ของสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปนทรงมิได้เปื้อนกระหรือกระทั่งฝ้า หากแต่ทรงถูกเศษกระเซ็นของก้อนโคลนแฉะที่ถูกระดมขว้างเข้าไปในขบวนเสด็จ โดยฝูงชนผู้โกรธแค้นว่าภาครัฐไร้ประสิทธิภาพในการเตือนภัยน้ำท่วม ตลอดจนในการเข้าช่วยเหลือหลังเกิดภัยน้ำท่วม จนทำให้พวกตนสูญเสียทรัพย์สินและบุคคลอันเป็นที่รัก นอกจากที่ทรงถูกเล่นงานด้วยก้อนโคลนแฉะแล้ว พระองค์และสมเด็จพระเจ้าเฟลิเปที่ 6 ตลอดจนนายกรัฐมนตรีสเปน ยังถูกสาดคำปรามาสว่า “พวกฆาตกร! พวกฆาตกร!” ตลอดจนคำหยาบคายอื่นๆ; ส่วนหนุ่มราชองครักษ์ (ซ้าย) ได้แผลแตกบนหน้าผาก เลือดแดงไหลลงมาตามโหนกแก้มและข้างสันจมูกในปริมาณไม่ใช่น้อยๆ ทั้งนี้ ควีนเลติเซียทรงไม่ใส่พระทัยต่อภัยคุกคามพระสิริโฉม ทรงเดินหน้าสนทนาให้กำลังใจแก่พสกนิกรรายแล้วรายเล่า โดยบางรายที่เล่าถึงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักให้แก่อุทกภัย ก็ทำให้ควีนเลติเซียกรรแสงด้วยความสะเทือนพระราชหฤทัย
สมเด็จพระเจ้าเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และสมเด็จพระราชินีเลติเซีย ทรงถูกประชาชนผู้โกรธแค้นและเพิ่งรอดตายจากมหันตภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรง ต่อต้านและขว้างปาก้อนโคลนและสิ่งของเข้าใส่พระองค์ทั้งสอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024 ขณะที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินให้กำลังใจชาวเมืองไปปอร์ตา ในแคว้นปกครองตนเองบาเลนเซีย อันเป็นพื้นที่ศูนย์กลางแห่งหายนะซึ่งมีเหยื่อวิกฤติภัยธรรมชาติถูกคร่าชีวิตไปแล้วมากกว่า 217 ราย เอเอฟพีรายงาน

พระภูษาทรงของคิงเฟลิเปที่ 6 ทรงเลอะเทอะด้วยเศษโคลนตมไปทั่ว ส่วนควีนเลติเซียทรงได้รับผลกระทบเพียงเศษกระเซ็นของโคลนบนพระพักตร์ กระนั้นก็ตาม ทั้งสองพระองค์ทรงสงบและนิ่ง โดยทรงพยายามพูดคุยอธิบายข้อมูลต่อผู้ประท้วงบางรายที่มีโอกาสจะสนทนากันได้ เพื่อจะบรรเทาความเกรี้ยวโกรธเจ็บแค้นว่าทางการไร้ประสิทธิภาพในการป้องกันแก้ไขวิกฤติการณ์น้ำท่วมดุเดือดในห้วง 5-6 วันที่ผ่านมา

ขณะที่พระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งสเปนทรงถูกฝูงชนที่คลุ้มคลั่งระดมขว้างปาโคลนและสิ่งของต่างๆ อาทิ กระป๋องเครื่องดื่ม อีกทั้งทรงถูกตะโกนหมิ่นพระเกียรติยศ ด้วยคำว่า “พวกฆาตกร” และคำดูหมิ่นต่างๆ ขณะเสด็จพระราชดำเนินให้กำลังใจแก่ประชาชน และตรวจสถานการณ์ตามถนนหลายสายของเมืองไปปอร์ตาซึ่งยังจมอยู่ในโคลนตม แต่เป้าหมายหลักของการประท้วงต่อต้านนั้น เน้นไปที่นายกรัฐมนตรีเปโดน ซันเชซ แห่งสเปน ตลอดจนนายคาร์ลอส มาซอง ประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย เอเอฟพีรายงานอย่างนั้น

ด้านเดลิเมลออนไลน์รายงานว่าแม้ควีนเลติเซียทรงถูกเศษกระเซ็นเปื้อนพระพักตร์บ้าง แต่ราชองครักษ์นายหนึ่งซึ่งอยู่ในคณะถวายความปลอดภัย ถึงกับได้แผลแตกที่หน้าผาก เลือดไหลนองลงมาไม่ใช่น้อยๆ

อีกมุมหนึ่งที่จะเห็นเศษกระเซ็นของโคลนแฉะซึ่งเปื้อนพระพักตร์ของควีนเลติเซีย ขณะตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าเฟลิเปที่ 6 ในการเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจแก่เหยื่อน้ำท่วมฉับพลันในเมืองไปปอร์ตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางความรุนแรงของอุทกภัยสเปนปี 2024 ทั้งนี้ ไม่ปรากฏการใช้ความรุนแรงเพิ่มมากไปกว่านี้

ขณะเผชิญกับฝูงชนผู้โกรธแค้นเกรี้ยวกราดใส่ขบวนเสด็จ คิงเฟลิเปทรงมีพระราโชบายอันชัดเจนว่าจะรับมือและป้องกันตัวเท่านั้น จะไม่มีการโต้ตอบใดๆ ด้วยเหตุนี้ ทีมคุ้มกันพระมหากษัตริย์แห่งสเปนจึงได้แต่ใช้ร่มกางกั้นมิให้ก้อนโคลนแฉะและวัตถุสิ่งของใดๆ ลอยเข้าไปกระทบพระเศียรหรือพระพักตร์ พร้อมนี้ ราชองครักษ์นายหนึ่งรู้สึกห่วงใยพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง และจึงยกสองมือขึ้นป้องกันพระเศียรด้านหลัง เผื่อจะมีการขว้างสิ่งใดๆ เข้าไป

ด้วยความที่ทีมอารักขาใช้เพียงร่มเป็นเครื่องมือป้องกันก้อนโคลนและสิ่งของต่างๆ มิให้ลอยมากระทบพระวรกายของกษัตริย์เฟลิเป คิงแห่งสเปนจึงทรงปลอดรอยเปื้อนที่บริเวณพระเศียรและพระพักตร์ ส่วนสำหรับพระภูษาทรง ทั้งเสื้อและกางเกงนั้น จะมอมแมมไปทั่วองค์  ในการนี้ คิงเฟลิเปทรงเครียดทีเดียว แต่ก็ทรงนิ่ง ทรงสงบ และทรงอดทนอดกลั้นต่อการต่อต้านเล่นงานโดยฝูงชนผู้โกรธเกรี้ยวทั้งปวง ทั้งนี้ ด้วยความสงบ ทรงสยบกระแสต่อต้านด้วยการสนทนากับชาวเมืองที่รอเข้าเฝ้ารับเสด็จ พร้อมกับพระราชทานโอกาสให้ผู้ต่อต้านและจาบจ้วงพระองค์เข้าเฝ้าเพื่อรับฟังปัญหา พร้อมอธิบายสิ่งต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา

คิงเฟลิเปทรงปรึกษาพระมเหสีด้วยพระทัยห่วงใย เพราะทรงเห็นว่าพระราชินีของพระองค์โดนน้ำโคลนกระเซ็นใส่พระพักตร์ ในการนี้ พระราชินีผู้ทรงเข้มแข็ง ยืนยันว่าไม่มีปัญหาและพร้อมจะตามเสด็จจนพระราชกรณียกิจสำเร็จลุล่วง

นายคาร์ลอส มาซอง (ซ้าย) ประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย ตามเสด็จคิงเฟลิเปในการตรวจเยี่ยมประชาชนในเมืองไปปอร์ตา แต่การณ์กลายเป็นว่า คาร์ลอส มาซอง และนายกรัฐมนตรีซันเชซ คือ เป้าหมายหลักของฝูงชนหัวร้อนที่ตั้งกลุ่มคอยลงโทษบรรดา VVIP ให้สมแค้น
ไปปอร์ตา เมืองชายขอบของแคว้นบาเลนเซีย เป็นศูนย์กลางของอุทกภัยอันหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบหลายทศวรรษของสเปน โดยผู้เสียชีวิตในอุทกภัยมหาวิบัติที่เมืองไปปอร์ตาแห่งเดียว ก็สูงกว่า 60 ชีวิต ส่วนการค้นหาผู้สูญหายก็อยู่ในภาวะหมดหวัง ดังนั้น สถานการณ์วุ่นวายทั้งหลายจึงผุดขึ้นจากความโกรธแค้นต่อปฏิบัติการแก้ปัญหาของภาครัฐที่ฝ่ายต่างๆ ชี้ว่าลงมือน้อยเกินไป และช้าเกินไป

นายกฯ สเปน และประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย ตามเสด็จคิงและควีนแห่งสเปนแค่เพียงพักเดียว แล้วก็แวบหายไปหลบอยู่ในรถประจำตำแหน่ง ขณะที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยดึงหน่วยคุ้มกันพิเศษเข้าประจำที่ตรงกลางเพื่อกั้นพระเจ้าแผ่นดินและพระราชินีให้ปลอดภัยจากกลุ่มผู้ต่อต้าน

คณะตำรวจช่วยกันล้อมวงถวายคุ้มครองอย่างตึงเครียด โดยเน้นเพียงการคุ้มกัน และหลีกเลี่ยงที่จะกระทบกระทั่งโต้ตอบกับฝูงชน แท็กติกที่นำมาใช้มีเพียงการกางร่มกั้นไม่ให้ก้อนโคลนและสิ่งของต่างๆ ลอยมาถึงพระวรกายแห่งคิงและควีน โดยมีตำรวจบนหลังม้าร่วมกันผลักดันฝูงชนหลายสิบรายให้ถอยออกห่างขบวนพระราชดำเนิน ฝูงชนกว่าครึ่งร้อยจึงยิ่งทวีความเกรี้ยวกราด เร่งขว้างก้อนโคลน และชูพลั่วบ้าง ไม้บ้าง ขึ้นโบกอย่างว้าวุ่น โดยหมายจะคุกคามและประท้วง

ในการนี้ คิงเฟลิเปและควีนเลติเซียทรงสงบ ทรงนิ่ง และทรงอดทนอดกลั้น ทรงไม่มีบรรยากาศโกรธเคืองแม้แต่น้อย เมื่อทรงมีโอกาสตรัสกับชาวบ้านกลุ่มที่รอรับเสด็จ ทั้งสองพระองค์ทรงไต่ถามอย่างใส่พระทัย และเช่นกัน เมื่อทรงมีโอกาสชี้แจงต่อผู้ประท้วง ก็ทรงประทานคำอธิบายต่างๆ เดลิเมลออนไลน์นำเสนออย่างนั้น

ประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยากจากอุทกภัยในเมืองไปปอร์ตา และโกรธแค้นการดำเนินการของภาครัฐ ไปจับกลุ่มประท้วงขบวนเสด็จ และตะโกนคำปรามาสคิงและควีนแห่งสเปน ตลอดจนนายกรัฐมนตรีแห่งสเปน และประธานแห่งแคว้นบาเลนเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ

อีกมุมหนึ่งของฝูงชนที่ได้รับความทุกข์ยากจากอุทกภัยในเมืองไปปอร์ตา และโกรธแค้นการดำเนินการของภาครัฐ ไปจับกลุ่มประท้วงขบวนเสด็จ พร้อมกับตะโกนคำปรามาสต่างๆ ทั้งนี้ ขบวนเสด็จที่ไปเยือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024 เป็นการเยือนของพระราชสำนักในเที่ยวแรก

กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 ทรงพระราชทานโอกาสให้บางคนของกลุ่มผู้ประท้วงได้เข้าไปเล่าเรื่องราวความทุกข์และยากลำบากต่างๆ พร้อมกับทรงอธิบายข้อมูลการปฏิบัติงานของภาครัฐอย่างละเอียด การพระราชทานโอกาสแบบนี้ช่วยสร้างความเข้าใจและบรรเทาความโกรธแค้นคับข้องใจของฝ่ายประท้วง

กลุ่มผู้ประท้วงการดำเนินงานของภาครัฐยืนออกันห่างๆ จากขบวนเสด็จ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ทั้งนี้ บุรุษคนที่ 3 จากขวา เป็นคนหนึ่งที่ประสบกับการสูญเสียร้ายแรง ในตอนหนึ่ง เขาถึงกับร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจ พร้อมนี้ จะเห็นสภาพยับเยินของเมืองไปปอร์ตาว่ายังเจิ่งนองด้วยโคลนเต็มพื้นถนนต่างๆ ทั่วเมือง

กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 ทรงพระราชทานโอกาสให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลถึงปัญหาที่ประสบอยู่

กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งไม่ใช้ท่าทีคุกคามร้ายแรง ได้รับพระราชทานโอกาสให้เข้าเฝ้ากันทั้งกลุ่ม เพื่อถวายรายงานถึงปัญหาต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ พร้อมนี้ คิงเฟลิเปทรงอธิบายให้เข้าใจกับถึงปัญหาและข้อจำกัดในการดำเนินงาน อีกทั้งความคืบหน้าในการส่งความช่วยเหลือเข้ายังพื้นที่ประสบภัย

ภายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง คิงเฟลิเปทรงสนทนากับทั้งผู้รอรับเสด็จ ตลอดจนกลุ่มผู้ประท้วงอย่างหลากหลาย ทั้งนี้ ทรงฟังปัญหาของพสกนิกรสตรีนางหนึ่งกราบบังคมทูลทั้งน้ำตาว่า อุทกภัยทำให้เธอสิ้นเนื้อประดาตัว เธอไม่มีอาหารยาไส้ ไม่มีผ้าอ้อมให้ลูกใช้

อีกมุมหนึ่งของการสนทนากับเหยื่อน้ำท่วมในเมืองไปปอร์ตา แคว้นบาร์เลนเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024 โดยมีประชาชนรายหนึ่งกราบบังคมทูลว่า “โปรดทรงช่วยเหลือพวกเราด้วย โปรดทรงอย่าทอดทิ้งพวกเรา”
ในจำนวนผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 217 รายนั้น เกือบทั้งหมดอยู่ในแคว้นบาเลนเซีย ขณะที่กำลังสนับสนุนด้านความปลอดภัยและด้านการช่วยเหลือเหตุด่วนเหตุร้ายรวมหลายพันรายก็หลั่งไหลเข้าสู่บาเลนเซีย

นายกฯ เปโดร ซันเชซ ซึ่งถูกหน่วยคุ้มครองพาตัวออกจากสถานการณ์การต่อต้านโดยชาวเมือง ได้เขียนขึ้นโซเชียลมีเดียว่าวิกฤติการณ์ครั้งนี้เป็นอุทกภัยที่อันตรายที่สุดอันดับสองของยุโรป ณ ศตวรรษปัจจุบัน

กระนั้นก็ตาม ประชาชนโกรธมากที่ภาครัฐเพิ่งจะประกาศเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่มวลน้ำอันมหาศาลไหลบ่าเข้าทำลายล้ายเมืองไปปอร์ตาเรียบร้อยแล้วราวสองชั่วโมง

ยิ่งกว่านั้น ความแค้นใจทวีตัวมหาศาล เพราะประชาชนเห็นว่าทางการไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์หลังน้ำท่วมได้รวดเร็วเพียงพอ

มวลน้ำได้ทะลักเข้าท่วมเข้าเมืองเข้าสู่บ้านเรือน ตลอดจนอาคารต่างๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า และทิ้งโคลนและซากปรักหักพังไว้เป็นหลายเลเยอร์

ผู้ประสบอุทกภัยพากันประกาศว่า

“พวกเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างหมดสิ้นแล้ว”

เมื่อควีนเลติเซียได้ฟังโศกนาฏกรรมที่ครอบครัวชาวเมืองไปปอร์ตาต้องประสบในห้วง 5-6 วันที่ผ่านมา ทรงถึงกับกรรแสงด้วยความสงสาร

หยดน้ำพระเนตรของควีนเลติเซียขณะทรงรับฟังชะตากรรมของเหยื่อน้ำท่วมในเมืองไปปอร์ตา

ควีนเลติเซีย (ซ้าย) ทรงปลอบใจชาวเมืองผู้สูญเสียทรัพย์สินและบุคคลอันเป็นที่รักไปกับน้ำท่วมที่เมืองไปปอร์ตา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024
ด้านกษัตริย์เฟลิเปทรงมิได้หวั่นกลัวผู้ต่อต้านพระองค์ แม้นายกฯ สเปน แวบกายไปกับหน่วยคุ้มครองแล้ว แต่พระองค์และพระราชินียังทรงเดินหน้าพบปะพสกนิกร ทรงพูดคุยกับทั้งผู้ที่รอเข้าเฝ้าและผู้ที่ปักหลักประท้วง

คิงแห่งสเปนทรงโอบบ่าของชายหนุ่มสองคน แถมด้วยการสวมกอดให้กำลังใจ ซึ่งกลายเป็นรอยเปื้อนโคลนแห่งความประทับใจที่ปรากฏนาบแผ่นหลังของเสื้อฝนของพระองค์ เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ของสถานี RTVE รายงานว่าสตรีคนหนึ่งร้องไห้ และกราบบังคมทูลคิงเฟลิเปว่าเธอไม่มีอาหาร ไม่มีผ้าอ้อมให้ลูก

นอกจากนั้น ประชาชนอีกรายหนึ่งกราบบังคมทูลว่า

“โปรดทรงช่วยเหลือพวกเราด้วย โปรดทรงอย่าทอดทิ้งพวกเรา”

ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่คิงเฟลิเปและควีนเลติเซียตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ชาวเมืองไปปอร์ตา จึงเป็นห้วงแห่งความตึงเครียดนานครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเป็นโอกาสให้ประชาชนได้ตระหนักถึงน้ำพระทัยยิ่งใหญ่แห่งพระมหากษัตริย์ของชาวสเปน

พร้อมนี้ รัฐบาลกลางได้อนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติม ได้แก่ กองกำลังทหารอีก 5,000 นาย และกองกำลังตำรวจกับทีมช่วยเหลือภาคเอกชนอีก 5,000 นาย เพื่อดำเนินงานฟื้นฟูสภาพเมืองและหมู่บ้านทั้งปวงที่เสียหายจากอุทกภัยนี้ที่ทำลายถนน สะพาน กระทั่งว่าชุมชนมากมายถูกตัดขาดจากอาหาร น้ำดื่ม และพลังงานไฟฟ้า นับจากเมื่อวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2024

ขบวนเสด็จเคลื่อนออกจากเมืองไปปอร์ตาด้วยความเรียบร้อย โดยมีข้อยกเว้น คือ กรณีรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกฯ ซันเชซ ซึ่งยับเยินแทบจะทั้งคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระจกหลังถูกฟาดกระหน่ำจนเละไปทั้งบาน

สภาพยับเยินแทบจะทั้งคันของรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสเปน ขณะเคลื่อนตัวไปกับขบวนเสด็จ เพื่อเดินทางออกจากเมืองไปปอร์ตา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024  โดยประชาชนผู้โกรธแค้นรัฐบาลกลางของประเทศสเปนช่วยกันฟาดกระจกด้านหลังเละเทะไปทั่ว

ตำรวจม้ามีบทบาทอย่างมากในการควบคุมฝูงชน โดยในตอนที่คณะจะเคลื่อนขบวนออกจากเมือง ทีมตำรวจม้าเป็นผู้ที่ป้องกันความปลอดภัยต่างๆ พร้อมนี้ สภาพของพื้นถนนสายต่างๆ ในเมืองไปปอร์ตาล้วนแต่เละเทะสกปรกด้วยซากโคลนที่ปกคลุมไปทั่วเมือง

อาสาสมัครจากต่างเมืองและชาวเมืองไปปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย ช่วยกันทำความสะอาดถนนต่างๆ ในบ้านเมืองเมื่อวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน เพื่อปิดฉากฝันร้ายแห่งศตวรรษที่ 21 ของชาวสเปน สภาพอันยับเยินของเมืองเป็นผลจากน้ำโคลนท่วมเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2024 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ไม่น้อยกว่า 60 ราย และไม่น้อยกว่า 217 รายทั่วแคว้นบาเลนเซีย อีกทั้งมีผู้สูญหายอีกมหาศาล ทั้งนี้ในวันนี้ (4 พ.ย.) รัฐบาลกลางจะส่งกำลังทหาร กำลังตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญการกอบกู้สถานการณ์ฉุกเฉินของภาคเอกชน รวม 10,000 ราย ไปช่วยกอบกู้ฟื้นฟูบ้านเมืองและหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยทุกแห่งของประเทศ
คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: เอเอฟพี เดลิเมลดอทคอม เอพี)

กำลังโหลดความคิดเห็น