กองปราบสอบปากคำ "พี่อ้อย" นานกว่า 11 ชั่วโมง เจ้าตัวปัดสัมภาษณ์สื่อ ด้านทนายเผยมอบหลักฐานให้ตำรวจไปหมดแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ก่อน ส่วนเงิน 71 ล้านลูกความยืนยันไม่ได้ให้โดยเสน่หา
วันนี้ (31 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 22.30 น. น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย เศรษฐีนีหมื่นล้าน ผู้เสียหายที่ถูก นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.เสร็จสิ้น หลังใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 11 ชั่วโมง
โดยระหว่างที่ลงมากลุ่มผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับการให้การกับตำรวจอย่างไรก็ตามพี่อ้อยได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยเดินไปขึ้นรถยนต์ Mercedes Benz คันที่มีปัญหา ซึ่งก่อนหน้าพี่อ้อยเคยระบุว่า รถยนต์คันนี้เป็นชนวนต้นเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกว่าถูกทนายตั้มฉ้อโกง เนื่องจากซื้อแพงเกินราคากว่าในท้องตลาด โดยได้มอบหมายให้ทนายความชี้แจงกับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวแทน
ด้าน นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความพี่อ้อย เปิดเผยว่า รายละเอียดต่าง ๆ อยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าเงินจำนวน 71 ล้านบาท ลูกความของตนไม่ได้ให้ไปโดยเสน่หา ตามที่ทนายความชื่อดังกล่าวอ้างอย่างแน่นอน ซึ่งมีหลักฐานทุกอย่างและได้มอบให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว เบื้องต้นจะแจ้งความเอาผิดทนายความข้อหาลักทรัพย์ก่อน แล้วถ้าหากพนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะประสานลูกความมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
"ส่วนกรณีที่ทนายคู่ความยืนยันว่าพี่อ้อยให้เงินมาด้วยเสน่หานั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เขาจะชี้แจง แต่มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ และถึงแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นนักกฎหมาย ก็ไม่ทำให้หนักใจเพราะเชื่อว่าเป็นนักกฎหมายก็สามารถที่จะทำผิดได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากผมทำผิดก็จะออกมายอมรับผิดแบบลูกผู้ชาย" นายสมชาติ กล่าว
