ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ตร.กะรน เตรียมเรียก ประธานมูลนิธิ “พระใหญ่” รับทราบข้อกล่าวหา ระบุ กระทำผิด เกินกว่า การเปรียบเทียบปรับ พร้อมส่งฟ้องศาลใน 2 ความผิด ทั้งคดี ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ที่ห้องประชุม สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้เสียหายจากเหตุดินสไลด์ จากเทือกเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และ มีบาดเจ็บอีกจำนวนมาก รวมทั้ง อาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย พร้อมผู้นำชุมชน และ นางรุ่งนภา พุฒแก้ว ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก. สภ.กะรน และ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ดินโคลนถล่มในพื้นที่ชุมชนกะตะ และ การดำเนินการเพื่อหาตัวผู้ที่ทำให้เกิดดินโคลนถล่มมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
โดยชาวบ้านที่เข้ายื่นเรื่องเพื่อติดตามความคืบหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ดินถล่มในพื้นที่ ต.กะรน ผ่านมานานกว่า 2 เดือน แล้ว แต่การดำเนินการด้านกฎหมาย เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดดินถล่ม ยังมีความล่าช้า การดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีความล่าช้า จึงได้รวมตัวกันมาเพื่อติดตามความคืบหน้าทั้งในส่วนของคดี ที่มีการแจ้งความดำเนินคดี และกรณีที่ชาวบ้านแจ้งความเพื่อให้หาตัวคนที่เป็นต้นเหตุทำให้ดินถล่มในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และจะได้มีการดำเนินการตามกฎหมาย และเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคายผกก.สภ.กะรน ได้กล่าวชี้แจงว่า ในส่วนคดีมีการดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่ คดีเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งเทศบาลตำบลกะรน ได้มาแจ้งความ ไว้ตั้งแต่ปี 2566 แต่เทศบาลฯ ได้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไปก่อนหน้าที่จะแจ้งความแล้วด้วย กรณีนี้เมื่อผู้ต้องหายินยอมให้เปรียบเทียบปรับ ตำรวจก็จะส่งสำนวนให้กับคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับในระดับจังหวัด ซึ่งได้มีการประชุมกันแล้ว
และมีมติเห็นควรส่งเรื่องกลับมาให้พนักงานสอบสวน สภ.กะรน แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากว่า ข้อกล่าวหาที่ผู้กระทำผิดกระทำนั้น เกินกว่าที่คณะกรรมการฯ จะทำการเปรียบเทียบปรับได้ ขณะนี้ได้มีการรวบรวมสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว และมีการนัดหมายประธานมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 มาแจ้งข้อกล่าวหา ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัด เนื่องจากเป็นความผิดใน 2 ส่วน คือ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน กับขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งมีค่าปรับเป็นรายวันและเกินจากอำนาจคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ
ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แจ้งข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด เนื้อที่ 5 ไร่เศษ ซึ่งเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต โดยเป็นพื้นที่ลานจอดรถและอาคารอนกประสงค์ พนักงานสอบสวนได้พิจารณาสำนวนและนำส่งไปยังอัยการเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความประมาทหรือไม่อย่างไรนั้น ทางตำรวจไม่สามารถชี้ชัดได้ เนื่องจากความผิดดังกล่าวต้องมีพยานหลักฐานมากเพียงพอ โดยเฉพาะต้องมีคดีเกิดขึ้นก่อน ทราบว่าทางจังหวัดภูเก็ต ได้ตั้งกรรมการมาพิจารณาในเรื่องนี้แล้ว ตามขั้นตอน หากที่ประชุมมีมติออกมาเช่นไร หรือหากเห็นเป็นความผิดอาญาก็จะมีการมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป