นครปฐม - ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเข้าตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2600 ปี หลังชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบพระครูปลัดธีระ พระปีนเสาไฟ พบไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ขณะทีมีกระแสข่าวว่าจะบุกไปหาหนุ่ม กรรชัย กรณีนำอาจารย์เบียร์มาให้สัมภาษณ์
เวลา 17.00 น. วันนี้ (30 ต.ค.) ที่วัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 พร้อมด้วยนายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม นายพรชัย โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าพบพระครูสิริปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง เจ้าคณะตำบลวัดสำโรง เพื่อหารือและติดตามข้อมูล พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ซึ่งได้มีความประพฤติไม่เหมาะสมในสื่อโซเชียล และเป็นที่หนักใจของคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนา
ซึ่งกรณีดังกล่าวได้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 21 ต.ค.67 ที่ผ่านมาพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้บุกไปหานายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง รายการโหนกระแส ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 เนื่องจากอ้างว่าพิธีกรคนดังทำให้ไม่พอใจ เพราะชอบมีกระแสออกข่าวทำลายพระ มีการนำอาจารย์เบียร์ เจ้าของ Tiktok คนตื่นธรรม มาออกรายการ ซึ่งทาง รปภ.ไม่ให้ขึ้นไปพบ เนื่องจากไม่มีการแสดงบัตรพระ จากนั้นเจ้าตัวได้มีการระบุว่า วันที่ 31 ตุลาคมนี้จะกลับมายื่นหนังสือกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อีกครั้ง โดยจะนำคนมาด้วย 100 คน
โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำเอกสารเป็นหนังสือ เอกสาร พิเศษ/2567 จากวัดโพนทะเล ตำบลโพนทะเล อำเภอโพนทะเล จังหวัดพิจิตร ลงนามโดยพระครูปลัดสุทัศน์ สุเมโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนทะเล เรื่องขอให้พระภิกษุกลับวัดโพนทะเล โดยระบุว่า พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) สังกัดวัดโพนทะเล ได้มาจำพรรษา อยู่ ณ ที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆ จนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกรณีแสดงตนไม่เหมาะสมบนสื่อออนไลน์ โดยในหนังสือได้มีการระบุให้กลับวัดต้นสังกัด ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ลงนามวันที่ 30 ตุลาคม 67 โดยปัจจุบันยังไม่ได้มีการกลับไปยังต้นสังกัดแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน เวลา 17.30 น. ชุดปฏิบัติการได้เดินทางเข้าไปที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2600 ปี ซึ่งปรากฏว่าพบตัวพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า อยู่ภายในพื้นที่จึงได้มีการขอตรวจเอกสารหนังสือสุทธิต้นสังกัดและเอกสารก่อตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าวจึงได้เกิดมีปากเสียงขึ้นในการตรวจค้นและถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ในระหว่างตรวจสอบ โดยทางพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้ถ่ายคลิปและยืนยันว่าเอกสารในการแจ้งต้นสังกัดจากจังหวัดพิจิตรไม่ถูกต้อง
เนื่องจากได้ถูกให้ออกจากวัดดังกล่าวมาแล้ว และถูกกลั่นแกล้งมาตลอด ซึ่งสังกัดของตนอยู่ที่พื้นที่วัดสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ทางชุดตรวจสอบได้สอบถามถึงเอกสารในการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ซึ่งพบว่าอยู่ในที่เปลี่ยวลึก และหาทางเข้ายาก ทางคณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรี แจ้งว่ายังไม่ได้มีการระบุอยู่ในสารบบ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะมีการตรวจสอบเอกสารการขอจัดตั้งว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางคณะสงฆ์โดยหลวงพี่น้ำฝน ให้คำแนะนำว่าควรจะย้ายกลับต้นสังกัดในจังหวัดสุพรรณบุรีต้นสังกัดที่มีอยู่
จากนั้นเวลาประมาณ 18.20 น. รถตู้ของทีมงานกัน จอมพลัง ได้เดินทางมาถึงสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยสังเกตการณ์อยู่ในรถและไม่ได้ลงมาสอบถามหรือได้พบตัวพระครูปลัดธีระ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเมื่อพบว่าการตรวจสอบเสร็จสิ้นจึงได้วนรถออกจากพื้นที่
ด้านนายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พระรูปดังกล่าวมีการเชิญชวนให้ญาติโยมนัดชุมนุม โดยจะเดินทางไปที่ช่อง 3 ทำให้ทางเจ้าคณะอำเภอ รวมไปถึงสำนักพุทธจังหวัดนครปฐม เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแต่ว่าไม่ใช่เป็นพระสงฆ์ในสังกัดของจังหวัดนครปฐม แต่ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ที่ใดก็แล้วแต่ โดยเจ้าคณะปกครองต่างประชุมกันและไม่เห็นด้วย จึงได้เดินทางลงมาสำนักปฏิบัติธรรม เพื่อทำการตรวจสอบ ตักเตือน แต่พระธีรธนัชณฤทธา ได้แสดงท่าทีไม่พอใจกับการตรวจสอบดังกล่าว
สำหรับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า เคยมีประเด็นดังเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 61 ซึ่งได้ก่อเหตุปีนเสาสัญญาณ ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากเรียกร้องไม่ให้สำนักสงฆ์ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากที่ดินที่ได้มีการจัดสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว เคยมีเอกชนมาก่อสร้างรีสอร์ตแล้วติดหนี้ธนาคารและเป็นที่รกร้าง กระทั่งปี 2555 พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า ได้มาสร้างเป็นสำนักสงฆ์และมีการนิมนต์พระ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อสายกัมพูชาวนเวียนเข้ามาในสถานที่ กระทั่งธนาคารได้พยายามให้ย้ายออกไป จึงได้มีการปีนเสาสัญญาณ จนได้ชื่อว่า พระปีนเสาไฟฟ้า นับแต่นั้นมา
ต่อมา ในวันที่ 13 พ.ย.62 ได้ปีนเสาสัญญาณอีกครั้งในพื้นที่เดิม ซึ่งให้เหตุผลว่าจะขึ้นไปปฏิบัติธรรมด้านบน ซึ่งมีการสอบถามรายละเอียดแล้วอ้างว่าประท้วงที่ธนาคารไม่ยอมทำสัญญาขายที่ดินเพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอีก ก่อนจะมีการบุกไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในปี พ.ศ.2565 ในพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล ยังเคยมีการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมฐานประพฤติตนไม่เหมาะสมโดยการขับรถยนต์ไปบิณฑบาตและมีสีกาที่อยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมนั่งไปด้วย ในรถยังพบเครื่องแต่งกายฆราวาส โดยได้มีการแจ้งบันทึกตักเตือนถึงความไม่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งในปี พ.ศ.2566 พื้นที่อำเภอนครชัยศรี ก่อนมีการตรวจสอบครั้งนี้ได้มีการถูกร้องเรียนเนื่องจากสงสัยว่ามีชาวต่างด้าวมาบวชอยู่ในพื้นที่สำนักสงฆ์
ทั้งนี้กรณีดังกล่าว เพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ได้มีการโพสต์ข้อความว่า วันที่ 31 พระปีนเสาประกาศเอามวลชนไปหาพี่หนุ่มและผู้บริหารช่อง 3 งั้นผมขอเชิญ FC ที่รักผมและพร้อมลุยไปกับผมร่วมกันใส่ชุดสีดำ ไปเจอกัน 3 10 โมง เพื่อเคียงข้างพี่หนุ่มครับ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนกดไลก์กว่า 1.28 แสนคน ต่อมาวันนี้ได้มีการลงคลิปเชิญชวนอีกรอบ ซึ่งทำให้ประเด็นดังกล่าวร้อนแรงมากขึ้น และมีการจับตาในวันพรุ่งนี้