xs
xsm
sm
md
lg

ชักไม่น่าไว้ใจ!กองทัพมอสโกซ้อมรบนิวเคลียร์ถี่ๆ หลังยูเครนขอตะวันตกโจมตีดินแดนลึกรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รัสเซียเปิดเผยในวันอังคาร(29ต.ค.) กองทัพของพวกเขาทำการซ้อมรบนิวเคลียร์รอบใหม่ ภายใต้การตรวจตราของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้เรียกร้องให้ปรับแก้เกณฑ์การใช้มาตรการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของมอสโก

ปูติน พูดถึงแนวโน้มเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์หลายต่อหลายครั้ง ระหว่างรัสเซียปฏิบัติการรุกรานยูเครน และเมื่อเดือนที่แล้ว เขาเสนอให้เปลี่ยนเงื่อนไขการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ให้ครอบคลุมบรรดาประเทศที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธร้ายแรงนี้ด้วย

ข้อเสนอการปรับเปลี่ยนหลักการด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียในครั้งนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนแรงๆ ไปยังสหรัฐฯ และอังกฤษ ซึ่งกำลังใคร่ครวญว่าจะอนุญาตให้ยูเครนนำขีปนาวุธตามแบบของตะวันตกไปใช้ยิงโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียหรือไม่

สำหรับหลักนิยมด้านนิวเคลียร์ฉบับปัจจุบันที่ออกโดยกฤษฎีกาของ ปูติน เมื่อปี 2020 กำหนดเอาไว้ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ในกรณีที่ถูกศัตรูโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์หรือถูกโจมตีด้วยอาวุธตามแบบ จนถึงขั้น “คุกคามความอยู่รอดของรัฐ”

เงื่อนไขหลักๆ ที่ ปูติน เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ก็คือ การประกาศให้ “เบลารุส” เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มนิวเคลียร์ของรัสเซีย และการถือว่ามหาอำนาจนิวเคลียร์ที่สนับสนุนปฏิบัติการโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธตามแบบ เป็น "คู่สงคราม" ของรัสเซียด้วย

กระทรวงหลาโหมรัสเซียระบุในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า "การฝึกซ้อมเป็นการซ้อมรบด้านกำลังพล และแนวทางต่างๆขององค์ประกอบทั้งทางภาคพื้น ทางทะเลและทางอากาศ ของกองกำลังป้องปรามทางยุทธศาสตร์ และได้มีการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปลูกหนึ่ง"

ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย บอกว่าขีปนาวุธถูกยิงออกจากฐานทดสอบขีปนาวุธ ในแถบคาบสมุทรคัมชัตคา ทางตะวันออกไกล ส่วนขีปนาวุธอื่นๆถูกยิงออกจากเรือดำน้ำลำหนึ่งในทะเลแบเรนตส์ ในแถบอาร์กติก และจากทะเลโอคอตสค์ ในแถบตะวันออกไกลของรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย อ้างว่าการฝึกฝนประสบความสำเร็จ และขีปนาวุธพุ่งโดนเป้าหมายต่างๆที่กำหนดไว้

เมื่อเดือนกันยายน ปูติน ได้แนะนำให้มอสโกปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ เปิดทางให้พวกเขาปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่

ภายใต้ข้อเสนอปรับแก้นั้น รวมไปถึงกรณีที่รัสเซียจะถือว่าการโจมตีใดๆจากประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ เป็นการโจมตีร่วมของทั้ง 2 ชาติ ซึ่งในกรณีนี้น่าจะหมายถึงยูเครน

แผนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ ยูเครนกำลังเรียกร้องตะวันตก อนุญาตให้พวกเขาใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกมอบให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้สหรัฐฯยังคงลังเลที่จะให้ไฟเขียว

(ที่มา:เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น