xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งค์ยาเสพติดใจดีสู้เสือ ขนยาบ้า 2 ล้านเม็ดใส่รถเก๋งเข้าด่านตรวจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



พระนครศรีอยุธยา - แก๊งค์ยาเสพติดใจดีสู้เสือ ขนยาบ้า 2 ล้านเม็ดใส่รถเก๋งเข้าด่านตรวจ สุดท้ายคอตกถูกรวบพร้อมของกลาง ที่ถนนสาธารณะเลียบคันคลอง 1 ม.5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลา 16.30 น.วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมเจตน์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย พร้อมชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ยาบ้าจำนวน 2,046,000 เม็ด ได้ในพื้นที่ สภ.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันที่ 27 ตุลาคม เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย ได้ตั้งจุดบริเวณตรวจป้องกันอาชญากรรม ที่ถนนสาธารณะเลียบคันคลอง 1 ม.5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบเห็นรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กน 8498 ร้อยเอ็ด ขับขี่เข้ามาจุดตรวจ จากการพูดคุยซักถาม นาย กฤษณะ หรือ ( อ๊อฟ ) อายุ 26 ปี คนขับรถ ไม่พบความผิดปกติ แต่ลักษณะรถผิดปกติเหมือนบรรทุกสิ่งของมาหนัก จึงขอตรวจค้นที่ ฝากระโปรงหลังรถ พบกระสอบจำนวน 2 กระสอบ เบาะหลังกระสอบ จำนวน 3 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้าจำนวน 2,046,000 เม็ด

การจับกุมครั้งนี้ เป็นการจับกุมยาบ้าจำนวนมาก ที่เป็นการจับกุมของการตั้งจุดตรวจ ผู้ต้องหาที่ขนยาเสพติดมามีความกล้ามากที่กล้าขับรถผ่านเข้าด่าน ในช่วงของเวลากลางดึกแบบนี้ ถ้าเป็นผู้ที่มีการขนของผิดกฎหมายมา และขนยาเสพติดจำนวนมาก ขนาดนี้ ถ้าเห็นด่านตรวจไม่น่าที่จะกล้าขับรถรถเข้าด่านตรวจ แต่ต้องขอชมเชยเจ้าที่ตำรวจของ สภ.วังวังน้อย ที่มีความสังเกตเรียกตรวจรถและคนรถคันดังกล่าวไม่ปล่อยผ่านไป จากการตรวจค้นรถเราจะเห็นว่าภายในรถมีเศษดินทรายอยู่ที่รถและกระสอบ น่าจะเป็นยาเสพติดที่มีการขนผ่านมาทางช่องทางธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน

พล.ต. ต.โชติวัฒน์ เหลืองสิลัย ผบก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเปลี่ยนวิธีการในการขนยาเสพติด ในการขนยาเสพติดครั้งละมากๆ มาใช้รถยนต์เก๋งแทน ง่ายต่อการหลบหนีกันจับกุมหรือการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ จากเดิมที่ใช้รถยนต์กระบะ หรือรถยนต์บรรทุก ในการขนยาเสพติด ซึ่งในการขนยาเสพติดโดยใช้รถยนต์เก่งครั้งนี้เป็นการขนมาจากพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน ปลายทาง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

และจากการตรวจสอบสภาพรถขนยาเสพติดพบโคลนจำนวนมาก จึงเชื่อว่ายาเสพติดมาจากชายแดนโดยผ่านมาทางฝั่งแม่น้ำโขง ก่อนยกขึ้นรถเก๋งคันดังกล่าวและขับมุ่งหน้ามาส่งตามจุดนัดหมาย ภายหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย และชุดขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดรายสำคัญ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการ สืบสวนขยายผล เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นมารับโทษตามกฎหมายต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น