ร้านชาเย็นแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม ถูกร้านอาหารคู่กรณีฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ชนวนเหตุมาจากตั้งร้านติดกันแล้วไม่พอใจหลายเรื่อง ด้านร้านชาไทยดังแฉคู่กรณีถึงขั้นติดกล้องวงจรปิดหมุนเข้ามาส่องที่ร้านได้ ศาลนครปฐมนัดไกลเกลี่ยก่อน 19 พ.ย. ก่อนไต่สวนมูลฟ้อง 2 ธ.ค.นี้
วันนี้ (27 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ร้านชาเย็นชาใจ ซึ่งเป็นร้านชาเย็นที่มีชื่อเสียงในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่ถนนสนามจันทร์ ต.สนามจันทร์ อ.เมืองฯ จ.นครปฐม ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ได้รับหมายศาลจังหวัดนครปฐม ถูกร้านอาหารร้านหนึ่ง ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ลงวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 2 ธ.ค. 2565 เวลา 09.00 น. แต่ศาลจะให้ไกล่เกลี่ยในวันที่ 19 พ.ย. เวลา 13.30 น. อย่างไรก็ตาม หลังลูกค้าทราบว่าร้านถูกคู่กรณีฟ้อง ก็ตามไปอุดหนุนและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมกับตำหนิร้านอาหารคู่กรณี
กรณีพิพาทดังกล่าว จากคำบอกเล่าของร้านชาเย็นชาใจในติ๊กต็อก สาระสำคัญระบุว่า ร้านชาเย็นชาใจ ขายในงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม แล้วลูกค้าเรียกร้องอยากให้ขายต่อ หลังจบงานจึงได้ย้ายมาขายที่ซุ้มขายเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากซุ้มขายเครื่องดื่มมีพื้นที่แคบและอากาศร้อน ซึ่งต้องยืนอยู่ในซุ้ม 2 คน เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ประกอบกับลูกค้าเยอะ จึงทำให้ทำออเดอร์ช้าเพราะพื้นที่น้อย กระทั่งพบบ้านให้เช่า ติดกับร้านอาหารคู่กรณีว่างพอดี จึงได้ตัดสินใจเช่าบ้าน โดยออกแบบและปรับปรุงบ้าน ก่อนที่จะย้ายร้านจากซุ้มขายเครื่องดื่มไปยังบ้านหลังดังกล่าว
เมื่อช่างทำกันสาดผ้าใบ เพื่อไม่ให้ฝนสาดมายังเคาน์เตอร์ ซึ่งพบว่าบริเวณหัวเสาหน้าบ้านฝั่งซ้าย ร้านอาหารคู่กรณีก็ทาสีล้ำเข้ามาเช่นกัน ปรากฎว่าไม่ถึง 2 ชั่วโมง ร้านอาหารคู่กรณีโทร.มาด่าว่า ผ้าใบไปเกินเขตของร้าน เมื่อถามกลับว่าร้านอาหารคู่กรณีก็ทาสีตรงขอบเกินมา ร้านอาหารคู่กรณีก็อ้างว่า ตนมาอยู่ก่อน ตนรีโนเวตก่อน ตนมีสิทธิ์ทำได้ ก่อนจะพูดจาเสียงแข็ง ให้เอาผ้าใบออกด้วย อ้างว่ารักษาสิทธิ์ในพื้นที่ของตน อีกวันหนึ่งจึงให้ช่างเข้ามาตัดออก
ต่อมาอีกวันหนึ่ง ร้านอาหารคู่กรณีแจ้งว่า รางน้ำฝนกระเด็นลงผ้าใบแล้วไปโดนร้าน โดนเครื่องพอยต์ออฟเซลล์ (POS) พัง วันนั้นเข็นรถออกมาตั้งหน้าร้าน เมื่อกลับมาถึงร้าน ร้านอาหารคู่กรณีเดินเข้ามาต่อว่าทำไมไม่มาดู มาแก้ปัญหา จะแก้ยังไง จะเอาคำตอบให้ได้ แม้จะชี้แจงว่าต้องรอช่างมาทำในวันรุ่งขึ้น ตนไม่ใช่ช่างเลยบอกไม่ได้ว่าจะแก้ยังไงได้บ้าง ร้านอาหารคู่กรณีจึงโกรธและพูดว่า ไม่มีสิทธิ์พูดกับเขาแบบนั้น จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการเอาท่อรางน้ำเจาะผ่านผ้าใบมาลงที่หน้าร้าน ผลก็คือเวลาฝนตกน้ำเข้าร้าน
เมื่อเปิดร้านได้ 1 วัน ร้านอาหารคู่กรณีแจ้งว่าเสียงเครื่องปั่นดัง ให้แก้ปัญหา และจะเอาคำตอบให้ได้ว่าจะแก้ไขไหม แก้ยังไง แนะนำให้ซื้อที่ครอบเครื่องปั้น หรือให้ทำที่กั้นกำแพง ทั้งที่ร้านอาหารดังกล่าวก็มีเครื่องปั่น แต่อ้างว่าลูกค้าสะดุ้งเพราะเสียงเครื่องปั่น ต่อมาเวลา 23.28 น. ร้านอาหารคู่กรณีโทร.มาต้องการคำตอบว่าจะแก้ไขเรื่องเครื่องปั้นโดยปิดช่องกำแพงหรือไม่ อ้างว่าต้องการความสงบเงียบเหมือนที่เขาอยู่มา ซึ่งในฐานะผู้เช่าจะทำอะไรต้องแจ้งเจ้าของบ้านก่อน แต่ร้านอาหารคู่กรณีทำน้ำปั่นขายได้ เพราะมุมของร้านเป็นพื้นที่เปิด ใกล้กันมีสถานบันเทิงเสียงดังทุกวันกลับไม่มีปัญหา เมื่อกล่าวว่า ทำอาชีพค้าขายแต่ใจแคบแบบนี้อยู่ยากนะ ร้านอาหารคู่กรณีก็กล่าวว่า ทำมา 5 ปีแล้ว
และเมื่อลูกค้าร้านชาเย็นชาใจไปเกินเขตแล้วถูกต่อว่า จากคำพูดของร้านอาหารคู่กรณี จึงแก้ปัญหาด้วยการทำป้ายระบุว่า ลูกค้าและพี่ๆ ไรเดอร์ ขี่รถเข้ามาจอดในร้านได้เลย รบกวนขอให้ลูกค้าที่น่ารักของเราทุกคน อยู่ในเขตพื้นที่ร้านของเราเท่านั้น เนื่องจากทางฝั่งซ้ายเค้าไม่อนุญาตให้ลูกค้าของเราเกินไปในเขตของเขาแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ถนนจะเป็นพื้นที่สาธารณะก็ตาม กราบขอความกรุณาจากลูกค้าที่น่ารักของเราด้วย ปรากฎว่าร้านอาหารคู่กรณีเอาฉากกั้นมาบัง ซึ่งถ้ามาจากอีกฝั่งจะไม่เห็นร้านชาเย็นชาใจเลย และต่อมาร้านอาหารคู่กรณีมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถหมุนเข้ามาส่องในร้านได้ ต่อมาพบร้านแห่งหนึ่ง ทำเมนูคล้ายกับร้านชาเย็นชาใจ ตั้งแต่เมนูเครื่องดื่ม แก้ว และโลโก้ของร้าน ปรากฎว่าเป็นฝีมือของร้านอาหารคู่กรณี แต่ไม่ออกมาขายหน้าร้าน ทำในบ้าน มีบริการส่งเหมือนกันทุกอย่างอีกด้วย
ด้านร้านอาหารคู่กรณี โพสต์ข้อความชี้แจงว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับทราบถึงความเสียหาย และได้รับข้อมูลมาจากหลายช่องทาง ทางร้านไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอบคุณทุกความรักความเมตตา เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับตนมาสักระยะแล้ว ทางร้านได้รวบรวมหลักฐานและได้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลเรียบร้อย ขอไม่ตอบในส่วนรายละเอียดเนื่องจากมีผลต่อรูปคดี ตนอดทนและยืนหยัดในความถูกต้องเสมอ เมื่อการพูดคุยกันไม่ได้นำพาไปซึ่งสันติ และร้านถูกสร้างความเสียหายด้วยการโพสต์หมิ่นประมาท ได้รับผลกระทบอย่างมาก ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุคิธรรม หากผู้ใดได้ทราบถึงความเสียหายแล้ว และยังกระทำการโพสต์หมิ่นประมาท หรือคอมเมนต์ให้ทางร้านเสียหาย ตนขอดำเนินคดีตามกฎหมาย