“ณวัฒน์” การันตี “ต๋อย ไตรภพ” ไม่ผิด ไม่โกง สร้างความน่าเชื่อถือให้เหล่าบอส ถ้ารู้เขาไม่ทำหรอก

“ณวัฒน์” การันตี “ต๋อย ไตรภพ” ไม่เคยคิดโกงใคร บอกอีกฝ่ายพร้อมชี้แจงกรณีนำเหล่าบอสมาทอล์กในรายการสร้างความน่าเชื่อถือกับประชาชน แต่ยังไม่มีใครมาเรียกสอบ ลั่นถ้าเขารู้เขาไม่ทำอยู่แล้ว เป็นบทเรียนของคนทำโทรทัศน์ อาจจะต้องรื้อกันทั้งระบบ

ออกมาชี้แจงครั้งหนึ่งแล้วสำหรับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ที่ว่าออกมาฟาด THE iCON แต่ทำไมไม่เห็นพูดถึง “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์”ที่ทำรายการทอล์กสัมภาษณ์เหล่าบอสจากบริษัทดังกล่าวผ่านรายการสร้างความน่าเชื่อถือกับประชาชน ชนิดที่ว่าถ้าใครอยากจะเกิดก็มาแจ้งเกิดในรายการได้เลย หรือเป็นเพราะสนิทสนมทำงานด้วยกันมาก่อน

ล่าสุด ณวัฒน์ ได้เผยว่าตัวเอง ได้คุยกับ ต๋อย ไตรภพ แล้วถึงกรณีนี้ ซึ่งต๋อยพร้อมที่จะไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ทันทีหากมีการเรียกสอบรายการ

“ผมว่าขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่นะครับ ถ้าเจ้าหน้าที่จะเรียกรายการไหนสอบ ผมว่าไม่ผิด เรียกได้เลย อย่างรายการทูเดย์โชว์ ผมได้คุยกับพี่ต๋อย ผมทำรายการกับแกมานานมากเป็นสิบกว่าปี เรื่องความตั้งใจ ถ้าเขารู้เขาไม่ทำอยู่แล้ว แต่เอาตรงๆ นะพอมันมาในรูปแบบนี้มันเลยไปกันใหญ่ เขาไม่รู้หรอก เขาจะโกงใครเขาก็ไม่โกงหรอก แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วตอนนี้ พี่เขาก็พร้อมเสมอ ใครเรียกเขาก็จะไปเลย เตรียมเอกสารไว้ให้ครบแล้ว

เพียงแต่เขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเขาไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้น หรือใครจะเรียกเขาไปตรงไหน พี่เขาก็ยินดีให้ความร่วมมือ เจตนาเขาคือไม่รู้ว่าไปแล้วมันจะเป็นอย่างนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ครับ ส่วนหลักฐานบิลที่จ่ายกับรายการอันนั้นจริงครับ ช่วงยุคทีวีตกต่ำมันก็จะมีพวกไทอินตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าทุกสถานีมีหมด ถ้าจะเรียก ผมว่าครบทุกช่องนะ คนละนิดคนละหน่อย ตรงนี้มันสะท้อนว่าใครทำรายการโทรทัศน์อยู่ จะต้องดูให้ดีมากขึ้น วงการโทรทัศน์มันเป็นซันเซฺ็ตแล้ว คงจะต้องมีแพลตฟอร์มคู่ขนาน เดี๋ยวทีวีมันก็จะจบสิ้นไปแล้ว เราจะไปง้ออำนาจเงินแบบนี้เพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ได้ มันอาจจะอันตรายอย่างที่เราเห็น ในวันนึงที่มันกลายเป็นเรื่องอื่นไป”

การันตี “ต๋อย ไตรภพ” ไม่เคยคิดโกงใคร ลั่นทุกรายการไม่มีใครเป็นแม่ทีม ไม่ขายของดิไอคอน ไม่บอกให้ใครไปสมัคร

“ก็ต้องเครียดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ผมก็บอกแกว่าผมรู้จักพี่นะ ผมการันตีพี่ได้ว่าพี่ไม่เคยคิดจะโกงใคร พี่เป็นคนธรรมะ พี่ไม่คบคน พี่ไม่ไปงานใคร พี่ไม่เคยปรากฎตัวที่อื่นนอกจากในสตูดิโอ นี่คือข้อดีอย่างหนึ่ง ถ้าพี่ต๋อยไปงานดิไอคอนสักงานหนึ่ง หรือไปธุระ หรือไปหาที่ออฟฟิศ มันก็อาจจะรู้สึกว่ามันมีอะไร แต่โชคดีที่เขาเชิญนับครั้งไม่ถ้วนแต่พี่ต๋อยไม่เคยไปเลย

มันก็เลยกลายเป็น เขามาหาที่สตูดิโอแล้วนำเรื่องมาเสนอ แล้วพี่ต๋อยก็ทำหน้าที่พิธีกรไป ส่วนเงินที่ได้มาก็ต้องยอมรับว่าได้มาจริงๆ เป็นเงินมาร์เก็ตติ้ง ผมพูดตามความจริงทั้งหมด ถ้าเจ้าหน้าที่จะเรียกผมว่าเรียกได้เลย ผมว่าแกพร้อม และทุกๆ รายการผมว่าเขาพร้อมหมด ทุกรายการไม่มีใครเป็นแม่ทีม ทุกรายการไม่มีใครขายของดิไอคอน ทุกรายการไม่เคยบอกให้ใครไปสมัคร ถ้าจะรวมกลุ่มพวกนี้รวมมา พี่ต๋อยอาจจะเยอะหน่อย”

ชี้เป็นบทเรียนของคนทำโทรทัศน์ อาจจะต้องรื้อกันทั้งระบบ
“ผมว่ามันเป็นบทเรียนของทุกคน ถ้าผมยังทำรายการเพชรรามาอยู่ ผมก็ต้องมีพวกเขาล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะมันจะมาในรูปแบบการซื้อสื่อ เป็นการโฆษณาในรูปแบบของความน่าเชื่อถือ ซึ่งมันยากมากกับธุรกิจทีวีในยุคนี้ ถามว่ามันมีส่วนกับผู้คนไหม มันมีส่วน เพราะเนื้อทอล์กจะมีอยู่ 3 นาทีซึ่งตรงกฎ กสทช. ที่ 3 นาทีสุดท้ายสามารถขายของได้ ผมว่าจากนี้เป็นต้นไป กสทช. ต้องชัดเจนด้วยว่าจากนี้จะต้องใช้เวลาตรวจเทปกันยังไง หรือจะต้องส่งเอกสารอะไรมากขึ้นกว่านี้ไหม หรือระงับไม่ให้ทำเลย ก็สามารถบอกเป็นนโยบายมา เพราะตอนนี้วงการทีวีมันเหมือนดิ้นรนเอาตัวรอดไปวันๆนึง”