xs
xsm
sm
md
lg

“อนันดา” รับถูกชวนทำขายตรงอื้อ! เคยร่วมงาน “มิน” แต่ไม่สนิท เซ็งข่าวดิไอคอน ไม่อยากให้ลงโทษแล้วลืม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“อนันดา” เผยเคยร่วมงานกับ “มิน พีชญา” แต่ไม่ได้สนิท รับเคยถูกชวนขายตรงหลายยี่ห้อ แต่ไม่ใช่ตัวตน ทำไม่เป็น อึดอัด มั่นใจเอาตนเองไปขายไม่ออกแน่นอน เซ็งข่าวดิไอคอน อยากให้ทุกคนหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ควรเกิดขึ้น วอนรื้อดูช่องโหว่กฎหมายขายตรง เซอร์ไพรส์ “มิว ศุภศิษฎ์” ขอ “ตุลย์” แต่งงาน อีกฝ่ายปรึกษาเรื่องแหวน จนต้องโทร.ไปถาม “วู้ดดี้”

กระแสข่าวคนดังพัวพันบริษัทแชร์ลูกโซ่อย่าง “ดิไอคอน” ทำเอาสะเทือนไปทั้งวงการ ทำให้การรับงานของคนบันเทิงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งข่าวก็ทำให้คนบันเทิงพากันเซ็ง ไม่เว้นแม้แต่ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ที่ออกมาเผยว่าเสพข่าวเรื่องนี้ อยากให้กฎหมายหาช่องโหว่เรื่องการขายตรง ไม่อยากให้ลงโทษแล้วก็ลืม

“การรับงานของคนในวงการ ผมพูดมาตลอดว่าอาชีพหลักของผมคือนักแสดง หลังจากนั้นก็เป็นงานรอง งานแสดงต้องเข้าใจก่อน มันเป็นการนำเสนอตัวละคร ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม ถ้าใครคิดว่างานแสดงคือการนำเสนอตัวเอง ก็เข้าใจงานแสดงผิด ถ้าเราเป็นตัวละคร

อย่างผมเล่นเป็นคนเลว เป็นมาเฟีย ถ้าใครอ้างอิงว่านั่นคือพี่อนันดา ก็ไม่ใช่ เรามีอิสระในการนำเสนอตัวละครในมุมอะไรก็ตาม แต่อะไรที่เกี่ยวข้องส่วนตัว ก็ต้องมองว่าสิ่งที่เราพรีเซนต์มันอิงกับตัวเรายังไง สะท้อนความจริงของตัวงาน ตัวโปรดักส์ยังไง มันจะเป็นงานอีกอย่าง สัญญาก็จะเป็นอีกแบบนึง ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าใหญ่ ส่วนใหญ่สัญญาต้องโปรเทคทั้งสองฝ่าย ฝั่งโน้นไม่ปล่อยอะไรง่ายๆ อยู่แล้ว เขาต้องให้ชัวร์ ฝั่งเราก็ต้องมีทนายตรวจสอบว่าทุกอย่างถูกต้อง

ผมว่าผมค่อนข้างละเอียดตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว อีกอย่างผมเป็นนักแสดงก่อน อย่างอื่นเป็นเรื่องรองลงมา ถึงแม้จ่ายเยอะกว่า ได้เงินเยอะกว่าเล่นหนัง แต่ผมมาจากเจนที่ไม่มีอาชีพอินฟูลเอนเซอร์ พรีเซ็นเตอร์ไม่ใช่อาชีพไง อันนั้นเรียกว่ารายได้เสริม เราก็โฟกัสเป็นนักแสดงก่อน แต่เจนนี้ผมเข้าใจว่าอาชีพของคนที่อยู่ในสายตาสังคม จะเป็นอินฟูลเอนเซอร์ พรีเซ็นเตอร์ หรือจะขายของออนไลน์ก็ว่ากันไป ผมว่าเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ผมมาจากอีกเจนนึงที่รับงานอีกแบบอยู่แล้ว เลยไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้เท่าไหร่”

รับเคยร่วมงานกับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” แต่ไม่ได้สนิท ตั้งแต่อยู่วงการ เคยถูกชวนขายตรงหลายยี่ห้อ แต่ไม่ใช่ตัวตน อึดอัด ลั่น “กูทำไม่เป็น”
“เคยร่วมงานกับมิน ก็ไม่มีอะไร น้องเขาก็เป็นคนน่ารัก ผมไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้น เอาจริงๆ ผมก็เห็นใจทุกๆ คน ทุกฝ่าย ผมก็ติดข่าวงอมแงมเหมือนกันนะ พูดตรงๆ ไม่ได้ต่างจากใครหรอก ผมก็เสพข่าวทุกวัน มันก็เซ็งไปหมดเลย เซ็งแทนทุกคน มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยว่ะ ดูแล้วรู้สึกอยากให้ทุกคนหาทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้เสียหายทั้งหมด แต่คิดว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นเลยว่ะ ผมไม่รู้ว่าเขาควรต้องไปเปลี่ยนกฎหมายหรือเปล่า
ผมไม่อยากให้จบแบบลงโทษๆ แล้วลืมกันไป ถ้าจะเอาจริงก็ช่วยเอาจริงกันหน่อย ผมว่าต้องทำเยอะกว่านั้น เปลี่ยนกฎพวกการขายตรงก็ว่ากันไป ลองไปรื้อดูให้ดีๆ ว่ามันมีช่องโหว่มันมี

ถามว่าเคยถูกชวนขายตรงไหม ก็เคย มันโดนอยู่แล้ว หลายยี่ห้อด้วย แต่ผมขายของไม่เป็น เคยเห็นไหม เขาขึ้นเวทีร้องเพลง เชียร์ โอ้โห กูทำไม่เป็น นี่ก็สุดๆ แล้ว นี่ตัวตนผม ผมพูดได้ ผมไม่เขิน ผมเห็นคนอื่นไปร้องเพลงกัน โห ผมทำการแสดงได้เฉพาะในงานแสดง พอมาเป็นงานอื่น ที่เกี่ยวข้องกับตัวผม ผมอึดอัดมาก อย่าเลย อะไรที่ฝืน ก็อย่าเอาผมไปออกเลย ขายไม่ดีแน่นอน (หัวเราะ)”

แจงกรณีชัตเตอร์คัมแบ็ก พูดแล้วน่าหมั่นไส้ แต่ภูมิใจอยู่ในหนังอมตะ
“ชัตเตอร์กลับมา ยังไม่ได้ไปดูเลย แต่มีคนบอกว่า พอรีมาสเตอร์มา มันดูใหม่ ดูเป็นหนังร่วมสมัยไปเลย เราก็ถามหลายคนเหมือนกัน ว่าการเข้าเรื่อง ตอนท้ายยังรู้สึกว่าอัปเดตอยู่ไหม ทุกคนก็บอกว่ายังร่วมสมัยอยู่ ก็เป็นเรื่องดีของเทคโนโลยี เพราะตอนเราถ่ายชัตเตอร์ เราถ่ายเป็นฟิล์ม การที่เขาเอามารีมาสเตอร์ ก็ต้องเอาฟิล์มไปสแกนใหม่หมด พอสแกนใหม่ก็กลายเป็นหนังใหม่ ก็ดี พูดไปก็ดูน่าหมั่นไส้ แต่หนังมันอมตะ ทำแบบนี้ไปก็ยิ่งอมตะ เราก็เป็นส่วนหนึ่งในความอมตะของหนัง ก็รู้สึกแอบอมตะไปด้วยนิดหน่อย (หัวเราะ)”

เซอร์ไพรส์ “มิว ศุภศิษฎ์ จงชีวีวัฒน์” ขอ “ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย” แต่งงาน อีกฝ่ายเคยปรึกษาเรื่องแหวน
“ตอนนี้เพิ่งปิดกล้องไป หนังกำกับโดยพี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) มีผม กับมิว ศุภศิษฎ์ เล่นด้วยกัน เป็นหนังสยองขวัญ แต่ฉีก หน้าหนังอาจเป็นฟีลนั้น แต่ว่าอาจเป็นหนังที่ยูนีกที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา มันไม่เหมือนใครจริงๆ ถามว่าจะได้ดูเร็วๆ นี้ไหม เขาเพิ่งปิดกล้องไปเผื่อไว้ 1 คิวเผื่อเก็บตก อาจเป็นช่วงก.พ.

กับมิวก็แสดงความยินดีด้วย เขาขอแต่งงาน ก็รู้จักทั้งสองคน น่ารักมาก ก็มีคุยกันเรื่องแหวนนิดหน่อย เขาโทร.มาถาม เขาถามประมาณว่าใครต้องให้ก่อนใคร แล้วต้องมีกี่วง เราก็ไปเสิร์จหา แล้วโทรถามพี่วู้ดดี้ (วุฒิธร มิลินทจินดา) ว่ายังไงนะพี่แลกกันยังไง ใครให้ใครก่อน ก็เลยให้คำแนะนำไป เราไม่รู้ แต่เราได้จากคนอื่นมา (หัวเราะ) ไม่รู้เขาได้ใช้หรือเปล่า แต่ก็แสดงความยินดีด้วย เราเห็นแค่ภาพนิ่ง ผมรู้ว่าเขาเหมือนแถลงข่าวอัลบั้ม เปิดเพลงอะไรสักอย่าง แล้วมีการขอกัน ผมรู้ว่าเขาจะขอกัน แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เซอร์ไพรส์เหมือนกัน”






กำลังโหลดความคิดเห็น