น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดี สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ว่า คดีดังกล่าวเกิดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวและขอโทษในนามของรัฐบาล จากนี้จะพยายามทำงานให้ดีไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษและได้ชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดในกระบวนการต่างๆ รวมถึงได้หารือกับคณะที่ปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง ทำได้หรือไม่ และทำอะไรบ้าง โดยได้ส่งไปสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงขั้นตอนทางกฎหมายว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการออก พ.ร.ก.เพื่อขยายอายุความ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับมาว่า ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออก พ.ร.ก. ตามมาตรา 172 และ 174 ที่จะขยายอายุความ เฉพาะคดี หรือตรากฎหมายขึ้นเพื่อเป็นการบังคับใช้โดยไม่ได้มุ่งขยายอายุความในคดีลักษณะเดียวกันเป็นการทั่วไปจึงไม่สอดคล้องกับมาตรา 26 วรรคสอง และยังอาจเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมกับบุคคล จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ออก พ.ร.ก.ตามรัฐธรรมนูญและหลักกฏหมายอาญาสากล
ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงดังกล่าว และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดความสงบสุข ไม่อยากให้ทุกฝ่ายขัดแย้งซึ่งกันและกัน และอย่าโยงคดีรุนแรงกับการเมือง
เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมรับมือหลังจากคดีหมดอายุความอย่างไร เนื่องจากเวลานี้เริ่มมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้นต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะที่หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจทำงานเต็มที่ในการติดตามตัวบุคคลและเรื่องที่เกี่ยวกับคดี ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี ทางตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง รายงานว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจึงไม่อยากให้โยงเห็นความรุนแรงกับเรื่องการเมือง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดในกระบวนการต่างๆ รวมถึงได้หารือกับคณะที่ปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง ทำได้หรือไม่ และทำอะไรบ้าง โดยได้ส่งไปสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงขั้นตอนทางกฎหมายว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการออก พ.ร.ก.เพื่อขยายอายุความ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับมาว่า ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออก พ.ร.ก. ตามมาตรา 172 และ 174 ที่จะขยายอายุความ เฉพาะคดี หรือตรากฎหมายขึ้นเพื่อเป็นการบังคับใช้โดยไม่ได้มุ่งขยายอายุความในคดีลักษณะเดียวกันเป็นการทั่วไปจึงไม่สอดคล้องกับมาตรา 26 วรรคสอง และยังอาจเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมกับบุคคล จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ออก พ.ร.ก.ตามรัฐธรรมนูญและหลักกฏหมายอาญาสากล
ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงดังกล่าว และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดความสงบสุข ไม่อยากให้ทุกฝ่ายขัดแย้งซึ่งกันและกัน และอย่าโยงคดีรุนแรงกับการเมือง
เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมรับมือหลังจากคดีหมดอายุความอย่างไร เนื่องจากเวลานี้เริ่มมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้นต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะที่หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจทำงานเต็มที่ในการติดตามตัวบุคคลและเรื่องที่เกี่ยวกับคดี ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี ทางตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง รายงานว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจึงไม่อยากให้โยงเห็นความรุนแรงกับเรื่องการเมือง