xs
xsm
sm
md
lg

เปิดถนน 6 สาย จ่อเก็บค่าธรรมเนียมรถติด อุดหนุนกองทุนซื้อคืนรถไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เปิดผลศึกษา 6 ถนน 6เหมาะเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ย่านเพชรบุรี-ทองหล่อ,สีลม-นคราธิวาส,แยกปทุมวัน,แยกราชประสงค์,แยกประตูน้ำ"คมนาคม"เผยแหล่งรายได้หลัก กองทุนซื้อคืนรถไฟฟ้า สนข.จับมือ"กองทุนจากอังกฤษ" ศึกษารูปแบบ Congestion charge

จากที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเตรียมร่วมกันศึกษาแนวทางการดำเนินการนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า20บาทตลอดสายซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมาเพื่อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชนคาดว่าจะใช้เงินประมาณ200,000ล้านบาทซึ่งการซื้อคืนนี้เพื่อทำให้ภาครัฐสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงและเป็นธรรมเข้าถึงได้ง่ายนั้นโดยเบื้องต้นกองทุนฯจะกำหนดระยะเวลา30ปีแหล่งเงินของกองทุนฯส่วนหนึ่งเป็นการระดมทุนซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเป็นต้นอีกส่วนจะเป็นรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด(Congestion charge)เป็นรูปแบบที่ได้ดำเนินการในประเทศที่พัฒนาแล้วและประสบผลสำเร็จเช่นประเทศอังกฤษซึ่งกระทรวงการคลังจะไปศึกษารูปแบบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าการจัดตั้งกองทุนเพื่อเดินหน้านโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า20บาทตลอดสายทุกสายและการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้นสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)ได้มีการศึกษาเบื้องต้นกรณีการเก็บจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่งหรือพื้นที่รถติด(Congestion charge)โดยสนข.ความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน(GIZ)ซึ่งมีสำรวจถนนอยู่ที่มีปริมาณจราจรหนาแน่นคาดว่าจะมีการจัดเก็บCongestion chargeพบว่ามีปริมาณจราจรรวมกันประมาณ700,000คัน/วันดังนั้นยกตัวอย่างหากจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯคันละ 50บาทประเมินเบื้องต้นจะมีรายได้ประมาณ35ล้านบาทต่อวันหรือ12,000ล้านบาทต่อปีที่สามารถสนับสนุนกองทุนฯซื้อคืนสัมปทานได้

นายปัญญาชูพานิชผู้อำนวยการสนข.กล่าวว่าจากที่สนข.ได้มีความร่วมมือกับสำนักงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน(GIZ)มีเป้าหมายเรื่องภาคขนส่งเพื่ออากาศสะอาดซึ่งมีการศึกษาสำรวจปริมาณจราจรของโครงข่ายถนนที่คาดว่าจะมีการดำเนินการมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion charge)จำนวน 6เส้นทาง ได้แก่

1.ทางแยกเพชรบุรี-ทองหล่อ(ช่วงถนนเพชรบุรีและทองหล่อ)มีปริมาณจราจร 60,112คัน/วัน

2.ทางแยกสีลม-นคราธิวาส(ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนสีสม)มีปริมาณจราจร62,453คัน/วัน

3.ทางแยกสาทร-นราธิวาส(ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนสาธร)มีปริมาณจราจร83,368คัน/วัน

4.ทางแยกปทุมวัน(ช่วงถนนพญาไทและถนนพระรามที่1 )มีปริมาณจราจร 62,453คัน/วัน

5.ทางแยกราชประสงค์(ช่วงถนนราชดำริถนนพระราม1และถนนเพลินจิต)มีปริมาณจราจร56,235คัน/วัน

6.ทางแยกประตูน้ำ(ช่วงถนนราชดำริถนนราชปรารถและถนนเพชรบุรี)มีปริมาณจราจร68,473คัน/วัน)

ทั้งนี้ตัวเลขปริมาณจราจรดังกล่าว เป็นการเก็บสถิติการจราจรในปี2566ซึ่งเก็บสถิติ ช่วงเวลา 07.00-19.00 น. โดยหากมีการจัดเก็บCongestion chargeคาดว่าปริมาณจราจรที่เข้าสู่ถนนดังกล่าวจะลดลงไปจากตัวเลขที่มีการสำรวจ

นายปัญญากล่าวว่าขณะนี้สนข.เตรียมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมโดยได้มีความร่วมมือกับUKPactกองทุนจากประเทศอังกฤษโดยจะเริ่มการศึกษา ในเดือนธ.ค.2567 โดยสนข.จะหารือเพื่อให้เร่งสรุปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง Congestion chargeภายในกลางปี 2568เพื่อให้ทันกับนโยบายขยายมาตรการรถไฟฟ้า20บาทของนายสุริยะจึงรุ่งเรืองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
กำลังโหลดความคิดเห็น