เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) จับกุม นายหลิว บู สัญชาติจีน หนึ่งในผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปข่มขู่นักธุรกิจจีน ยึดเงินและเรียกค่าไถ่ได้เงินไปรวมกว่า 15 ล้านบาท ขณะกำลังเดินทางออกจากประเทศไทย ด้วยเที่ยวบินของสายการบินสกายอังกอร์ เที่ยวบินที่ ZA 679 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ไปยังปลายทางท่าอากาศยานพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และชุดสืบสวนของตำรวจนครบาล 2 ได้มาซักถามและตรวจค้นสัมภาระติดตัว พบของกลางสายรัดข้อมือพลาสติกจำนวนมาก เงินสด หนังสือเดินทางของประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก หรือ เซเดโอ (Cedeao) ก่อนนำตัวส่งไปยังชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 2 ดำเนินคดี
สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ มีนักธุรกิจชาวจีนเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เสถียร ทิมทอง พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้าย 5 คน ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไม่ทราบรุ่น สีบรอนซ์ทอง ใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปในสำนักงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กทม. จากนั้นคนร้าย 4 คน ข่มขู่โดยเข้าค้นและยึดเงินในลิ้นชักโต๊ะทำงาน จำนวน 3.2 ล้านบาทไป จากนั้นจับตัวนักธุรกิจจีน 2 คนไปขึ้นรถ หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ฮอนด้าสีขาว ซึ่งเป็นของผู้เสียหายโดยภายในรถคันดังกล่าวมีเงินสด 1 ล้านบาท และในกระเป๋ามีเงินอีกจำนวน 2 แสนบาท ผู้ก่อเหตุเอาเงินไปหมด
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้เรียกค่าไถ่โดยการให้โอนเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ รายแรกจำนวน 115,000 USDT รายที่สองจำนวน 118,635 USDT ได้เงินไปกว่า 7.82 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 12 ล้านบาท ก่อนจะนำผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนย่านเกษตร-นวมินทร์ โดยผู้เสียหายระบุว่า หนึ่งในคนร้ายดังกล่าวเป็นนายหลิว บู และมีชาวต่างชาติสงสัยว่าเป็นชาวจีนอีก 4 คนร่วมก่อเหตุ
ต่อมาชุดสืบสวนของตำรวจนครบาล 2 ประสานงานร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้าย ซึ่ง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ลงข้อมูลผู้ต้องสงสัยในระบบ APPS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนการเดินทางของผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัยของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทั่งพบว่านายหลิว กำลังเช็กอินเพื่อเตรียมเดินทาง นำไปสู่การจับกุมดังกล่าว พร้อมกันนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีการขยายผลร่วมกับชุดสืบนครบาล เพื่อหาตัวคนร้ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
