xs
xsm
sm
md
lg

อดีตแกนนำพิราบขาว ยื่น กกต.สอบ "อิ๊งค์" เซ็นตั้ง "เต้น" พ่วงเอาผิด "สมศักดิ์" ชี้ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ซ้ำรอย "เศรษฐา"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว ยื่น กกต.สอบ "นายกอิ๊งค์" ตั้ง "เต้น" นั่งที่ปรึกษาทั้งที่เคยถูกจำคุก พ่วง"สมศักดิ์" ที่เซ็นปล่อย "ณัฐวุฒิ" พ้นเรือนจำทั้งที่ยังไม่ผ่านอบรมโคก-หนอง-นา ชี้ไม่ซื่อสัตย์สุจริต มั่นใจผิดจริยธรรมร้ายแรงซ้ำรอย"เศรษฐา" เร่งเดินสายยื่น อสส-ป.ป.ช.ฟันเพิ่ม

วันนี้(15ต.ค.)นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบ และพิจารณาถึงการใช้อำนาจหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข และการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จะทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา 160(4)(5)หรือไม่

นายนพรุจ กล่าวว่า ในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและคณะที่ปรึกษาหลายคนจะต้องผ่านการตรวจสอบ กลั่นกรองอย่างรอบคอบทั้งคุณสมบัติ และพฤติกรรมตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ต้องมีจิตใจสาธารณะในการรับใช้ประเทศชาติและประชาชน เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีความจงรักภักดี และการเป็นข้าราชการการเมืองต้องยึดหลักประมวลจริยธรรมการเมือง ซึ่งการใช้อำนาจหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ในการแต่งตั้งบุคคลทั้งสอง ทั้งที่นายณัฐวุฒิเป็นผู้ต้องโทษเด็ดขาดชาย และในขณะที่ได้รับพระราชเมตตา เป็นหนังสือของกรมราชทัณฑ์ที่แจ้งให้ผู้ต้องขังทราบว่ากรมราชทัณฑ์ได้น้อมนำโครงการพระราชทานโคก หนอง นา และให้ผู้ต้องขังทุกคนเข้าอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว แต่ปรากฏว่าวันที่ 18 ธ.ค.63 นายสมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม ขณะนั้นกลับเซ็นปล่อยตัวนายณัฐวุฒิออกมา โดยไม่ได้เข้าอบรมโครงการดังกล่าว ซึ่งตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯเป็นตำแหน่งสำคัญ มีอำนาจหน้าที่อาจจะครอบงำน.ส.แพทองธารก็เป็นได้ หรืออาจจะเสมือนไปสั่งการ หรือแอบสั่งการบางประเด็นที่น.ส.แพทองธารเรียนรู้ยังไม่ถึงก็ได้


“ผมมองว่าพฤติกรรมทั้งสองคน ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โครงการโคก หนอง นา นักโทษส่วนใหญ่ อบรมเกือบ 100% มี VIP ที่ปล่อยโดยนายสมศักดิ์ 76 คน ผู้ต้องคดีที่เป็นคู่กรณีทั้งหมด 5 คน เข้าร่วมอบรม 4 คน มีคุณหมอเหวง (โตจิราการ) คุณวิภูแถลง (พัฒนภูมิไท) มีผม ส่วนคุณวีระกานต์ มุกสิกพงษ์ ป่วยอยู่โรงพยาบาล ผมหมายความว่าคนที่มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งใหญ่สุดของฝ่ายบริหาร สำคัญ และยิ่งในโลกโซเชียล ก็มีการล้อเลียนนายกฯคนนี้มาก ในเรื่องภูมิ ความคิด ความอ่าน หรือประสบการณ์ ผมกลัวจะไม่ฉลาดทันนายณัฐวุฒิ ซึ่งมีพฤติกรรมตามที่ผมมายื่นต่อ กกต.นี้”

นายนพรุจ กล่าวอีกว่า จากนี้จะไปยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นเดียวกัน และยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ เพราะมองว่าตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเชื่อมั่นว่าน.ส.แพทองธาร จะไม่รอด ซึ่งผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารบ้านเมืองนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เทียบเคียงกับได้กับกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯจากการแต่งตั้งบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น