ศูนย์ข่าวนครราชสีมา –2สาวโคราชเหยื่อดิไอคอนกรุ๊ปโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความถูกหลอกสูญเงินรวมกันกว่า
600,000 บาท โดยทั้งคู่เป็นดาวน์ไลน์ “บอสปัน”หนึ่งในทีมแม่ข่ายระดับสูง เผยทุ่มเงินเก็บที่มีอยู่เปิดดิลเลอร์
หวังได้ผลตอบแทนสูงตามที่ถูกโน้มน้าว เครียดจัดจนทั้งคู่แท้งลูก
มีรายงานแจ้งว่า ที่ สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ได้มีผู้เสียหายจากบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวสา และ นางสาวหนิง (นามสมมุติ) หอบเอกสารหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับ บ.ดิ ไอคอน เข้าแจ้งความกับทางร้อยเวร ซึ่งทั้ง 2 คนต่างตกเป็นผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว โดยนางสาวสานั้นได้เปิดบิลระดับดีลเลอร์กับทางบริษัทในราคา 208,000 บาท ส่วนนางสาวหนิงเปิดบิลระดับดีลเลอร์เช่นกันแต่เปิด 2 รอบ หมดเงินไปกับค่าเปิดบิล 350,000 บาท รวมความเสียหายทั้ง 2 ราย เป็นเงินกว่า 600,000 บาท
ผู้เสียหายทั้ง 2 รายนี้เป็นเพื่อสนิทกัน นางสาวหนิงเป็นอัพไลน์ ส่วนนางสาวสาเป็นดาวน์ไลน์ ทั้งคู่ขึ้นตรงกับ “บอสปัน” หนึ่งในทีมแม่ข่ายระดับสูง และทั้งคู่ต่างก็เห็นโฆษณาจากทางเฟซบุ๊กก่อนที่จะสมัครเรียนออนไลน์ราคา 98 บาท โดยนางสาวหนิงเปิดบิลก่อนในปี 2564 ต่อมาทางนางสาวสาเห็นโฆษณาจากทางเฟซบุ๊ก ประกอบกับเห็นทางนางสาวหนิง เพื่อนรัก ได้สมัครไปแล้ว ยิ่งทำให้นางสาวสาตัดสินใจเร็วขึ้น สมัครเป็นดาวน์ไลน์ต่อจากนาวสาวหนิงในช่วงปี 2565 เปิดบิลในราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
ก่อนที่ในภายหลังทางบริษัทได้เชิญไปร่วมงานที่กรุงเทพทาง นางสาวสาก็ถูกบรรดาแม่ข่ายและบอสต่างๆจะเข้ามาปิดการขายพูดจาโน้มน้าวให้เปิดบิลในระดับดีลเลอร์ ซึ่งไม่ต่างกับผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกโน้มน้าวในทำนองเดียวกันนี้เช่นกัน
จากเหตุการณ์ถูกหลอกให้ร่วมทำธุรกิจกับดิไอคอนกรุ๊ป ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 2 รายนี้ ได้รับความลำบากในการใช้ชีวิตเพราะใช้เงินเก็บทั้งหมดบวกกับนำรถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำเงินมาลงทุนกับทางบริษัทฯ เป็นหนี้เป็นสินไม่มีแม้แต่เงินที่จ่ายค่าไฟ นอกจากนี้ทั้งคู่ต่างก็แท้งลูกเหมือนกัน โดยนางสาวหนิงแท้งลูกตอนท้องได้ 6 สัปดาห์
ส่วนนางสาวสานั้นแท้งลูกตอนท้องได้ 2 เดือน ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่าการแท้งลูกของผู้เสียหายทั้ง 2 รายนี้ เกิดจากความเครียด และสาเหตุจากความเครียดนั้นก็มาจากการนำเงินทั้งหมดไปลงทุนกับบริษัท ดิ ไอคอน แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆกลับมา ซึ่งนางสาวสายอมรับว่าเครียดมากจนคิดสั้น อยากฆ่าตัวตาย
นางสาวสา เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนไม่มีเงินแม้แต่เงินที่จะเติมน้ำมันรถไปแจ้งความที่ สคบ. เหมือนกับผู้เสียหายรายอื่น ที่สำคัญคือไม่อยากออกจากบ้านเนื่องจากกลัวเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดไฟที่บ้าน เพราะยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้า ไม่มีเงินจ่าย ซึ่งหลังจากฟังข่าวจากทาง “บอสพอล” ออกรายการโหนกระแสแล้วก็ทำให้มานั่งคิดว่าทำไมไม่เห็นเหมือนกับตอนที่ชวนเราเข้าทำธุรกิจแล้วทำไมชีวิตเราต้องมาเจออะไรแบบนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นยังไม่เคยลำบากขนาดนี้เลย ทำให้ตนนั้นมีอาการเครียดจนคิดสั้นไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้ว
แต่โชคดีที่ในคืนนั้นลูกของตนนั้นร้องจะกินนมทำให้ตนคิดได้จึงเลิกคิดที่ฆ่าตัวตายและออกมาชงนมให้ลูก ซึ่งความเครียดนั้นสะสมเรื่อยมา โดยเมื่อปลายปีที่แล้วนั้นเครียดจนแท้งลูกคนที่ 2
นางสาวสายังได้ฝากถึง “บอสพอล” ว่าช่วยทำในสิ่งที่พูดไว้เมื่อตอนชวนคนเข้ามาทำธุรกิจว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และอยากฝากไปถึงพี่กันต์ในฐานะแฟนคลับหนูก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนกันที่จะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้และหนูก็ไม่คิดอยากจะทำร้ายพี่ในฐานะแฟนคลับที่ดีเพราะหนูก็ยังรักและเป็นแฟนคลับพี่อยู่นะ
“แต่ตอนนี้หนูหมดความศรัทธาในตัวพี่เพราะในสิ่งที่พี่พูดไม่เหมือนกับคำมั่นสัญญาที่เคยพูดไว้ และรู้สึกเสียดายความรู้สึกตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีในฐานะแฟนคลัง ต้องมาถูกทำลายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน”นางสาวสากล่าวด้วยน้ำเสียงของคนที่สิ้นหวัง
