บิ๊กโจ๊ก ยังรุกหนัก ตามจี้นายกฯอุ๊งอิ๊ง สอบ ขรก.เอี่ยวเว็บพนัน
แม้ว่าในปีนี้จะเป็นในรอบหลายปีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบ.ตร. หลุดวงจรอำนาจ ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดทผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฎว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้มีคำสั่งนายกฯที่ 306 / 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียน
โดยในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า "ด้วยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้มีหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 สิงหาคม ปรากฎมีการพาดพิงข้าราชการหลายประเภท ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงมีคำสั่งให้คณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามเรื่องร้องเรียน ประกอบด้วย 1.นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ประธานกรรมการ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผู้แทนกรมชลประทาน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรรมการ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ"
"คณะกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
จากนั้นปรากฎว่าในวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอสำเนาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและอ้างพยานบุคคลให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองและพนักงานส่วนท้องถิ่น
โดยเนื้อความของหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้าพเจ้ากราบเรียนนายกฯ ขอให้พิจารณาดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ช้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่น กรณีพบพยานหลักฐานมีการพาดพิงบุคคลจำนวนหลายรายว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งต่อมาข้าพเจ้ามีหนังสือขอให้นายกฯเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยและอาญากับบุคคลที่ถูกพาดพิง รวมทั้งขอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่ปรากฎว่าสำนักเลขาธิการนายกฯได้มีหนังสือนำกราบเรียนนายกฯพิจารณาแล้ว มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณา พร้อมทั้งได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อันเป็นเอกสารไม่เกี่ยวกบการวินิจฉัยพิจารณา โดยข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องโปร่งใสในการดำเนินการของนายกฯ ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ ดังนี้
1.ขอสำเนาคำสั่งนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนลงวันที่ 5 กันยายน โดยลบ ตัดทอนหรือทำด้วยประการอื่นใดมิให้ปรากฎชื่อบุคคลที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียนั้น 2.ขออ้างพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นพยานบุคคลเพื่อให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่นตามคำสั่งสำนักนายกฯ เนื่องมาจากเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเดินบัญชีของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างไร จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป