เชียงราย – ยิ่งค่ำน้ำสายยังเพิ่ม แถมลือสะพัดคันกั้นน้ำเหมืองแร่พัง น้ำตอนเหนือหลากไม่หยุด จนบิ๊กแบ็ค-พนังกั้นเอาไม่อยู่ ล้นท่วมชายแดนสองฝั่งต่อเนื่อง เฉพาะ “ท่าขี้เหล็ก”ยิ่งหนัก
เย็นวันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ยิ่งเพิ่มขึ้นแม้ฝนจะซาลงแล้วก็ตาม มวลน้ำได้ไหลผ่านบ้านเรือน ร้านค้าบางแห่งที่อยู่ริมฝั่ง ซึ่งไม่มีพนังดินหรือบิ๊กแบ็คกั้น ทะลักเข้าท่วมชุมชนฝั่งตะวันตกของ อ.แม่สาย ตั้งแต่ชุมชนหัวฝาย ชุมชนถ้ำผาจม ชุมชนสายลมจอย ฯลฯ อย่างหนัก
นอกจากนี้ยังท่วมพนัง-บิ๊กแบ็ค ชุมชนเกาะทรายทางฝั่งตะวันออกของสะพาน แม้ว่าทางทหารจะนำบิ๊กแบ็คมาเสริมบริเวณสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 แล้ว แต่พื้นที่ทางใต้ลงไปกลับมีรูโหว่ ทำให้น้ำทะลักเข้าชุมชนหลายจุด ไล่ตั้งแต่ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน ไปจนถึงบางส่วนของชุมชนเหมืองแดง ซึ่งจนถึงหัวค่ำระดับน้ำยังคงไม่ลดลงทำให้ยังคงต้องเฝ้าตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ด้านฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่าน้ำเข้าท่วมตั่งแต่ชานเมือง-บางส่วนของตัวเมืองอย่างหนัก แม้จะมีการนำพนังกั้นบริเวณใกล้สะพานข้ามลำน้ำสายเหมือนฝั่งไทยแล้วก็ตาม นอกจากนี้ไฟยังดับเป็นบริเวณกว้าง Tachileik News Agency ในประเทศเมียนมารายงานว่าสาเหตุเพราะมีฝนตกอย่างหนักตั้งแต่ช่วงคืนที่่ผานมาในเขต จ.เมืองสาด รัฐฉานตะวันออก ซึ่งมีสภาพเป็นภูเขาสูง ทำให้น้ำสายไหลบ่าไปทาง จ.ท่าขี้เหล็ก-แม่สาย ขนานใหญ่ จนมีการแจ้งให้ประชาชนชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้เร่งอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเช่นกัน
รายงานข่าวจากชายแดนแจ้งว่าก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มทุนเข้าไปสร้างคันกั้นน้ำสายบริเวณเมืองโต๋น เมืองสาด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือน้ำของ จ.ท่าขี้เหล็ก และ อ.แม่สาย ห่างออกไปประมาณ 100 กิโลเมตร เพื่อขุดแร่ทองคำ-แมงกานีส มีการสูบจากลำน้ำสายขึ้นมาชะล้างสินแร่
กระทั่งมีข่าวลือว่าเมื่อฝนตกหนัก-คันกั้นน้ำไม่ไหวก็จะแตกทะลาย จนมวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลลงมา แต่ยังคงไม่มีหลักฐานหรือคำยืนยันจากฝ่ายใด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตของเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ซึ่งอยูนอกเขตของกองทัพเมียนมาทำให้ตรวจสอบได้ยาก
วันเดียวกัน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ได้ลงตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่หมู่บ้านนางแลใน และบ้านลิไข่ ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย ซึ่งถูกน้ำหลากท่วมหลายหมู่บ้านและถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่จัน จนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวถึงกรณีน้ำกลับมาท่วม อ.แม่สาย ว่าได้ให้ทางที่ปรึกษานำกำลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว เบื้องต้นคือระดมกำลังเจ้าหน้าที่ปิดกั้นและเสริมแนวบิ๊กแบ็คเพื่ออุดรูรั่วตลอดแนว รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในบางจุดได้กั้นบิ๊กแบ็คตามบ้านเรือนของตัวเอง บางส่วนให้ย้ายออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราวโดยฝ่ายปกครองจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่.