กาฬสินธุ์-คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ลุยสอบเปิดไทม์ไลน์จัดซื้อเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จี้สอบคลิปฉาวลดสเปกเครื่องมือแพทย์ จนทำให้งบประมาณตกไป เดินหน้าหาสาเหตุยกเลิกโครงการทำคนกาฬสินธุ์เสียประโยชน์
จากการณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กับคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โครงการจัดซื้อกล้องจุลทรรศน์ และเครื่องช่วยหายใจ งบประมาณรวม 13 ล้านบาท ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ได้อนุมัติให้จังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการจัดซื้อโดยมีวัตถุประสงค์ จากปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ ซึ่ง ค.ร.ม.อนุมัติวงเงินให้ 45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบให้นพ.วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเจ้าภาพจัดซื้อจัดจ้าง รวม 10 โครงการจาก 7 โรงพยาบาล และตั้งคณะกรรมการจดซื้อจัดจ้าง แยกตามความต้องการของแพทย์ผู้ใช้ แต่เฉพาะโรงพยาบาลกาฬสินธุ์แห่งเดียวกับไม่ได้รับการอนุมัติ จนมีคลิปสนทนาหลุดกลายเป็นคลิปอื้อฉาวที่สะเทือนวงการสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และชาวบ้านได้เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
รายงานล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยมอบหมายให้ นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 7 เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง
เบื้องต้นพบว่า นพ.วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทยสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเจ้าของคลิปเสียงเจรจา ได้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว จึงไม่ต้องกังวนว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ ปัจจุบัน คนที่ย้ายเข้ามาใหม่ คือนพ.ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ เป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ คนใหม่ ทำให้วันนี้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ก็ได้เตรียมจะชี้แจงต่อคณะกรรมการเช่นกัน
จากการตรวจสอบไทม์ไลน์งบประมาณจัดสรรพิเศษของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นได้ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ได้รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนและส่วนราชการ จึงเสนอของบประมาณตรงต่อนายกรัฐมนตรี และค.ร.ม.อนุมัติ จัดสรรให้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 และได้แจ้งเป็นหนังสือถึง นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ จากนั้นผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ นพ.วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ รับผิดชอบ
มีการสั่งการให้โรงพยาบาลที่ร้องขอได้ตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง รวม 6 แห่งประกอบด้วย โรงพยาบาลสมเด็จ, โรงพยาบาลยางตลาด, โรงพยาบาลฆ้องชัย, โรงพยาบาลร่องคำ, โรงพยาบาลกมลาไสย และ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งได้ขอจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามความต้องการเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลน อาทิเครื่องเอกซเรย์ เตียงผ่าตัด เครื่องดมยาสลบ เครื่องช่วยหายใจ ฯลฯ
ขณะที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ขอจัดซื้อกล้องจุลทรรศน์สำหรับผ่าตัดจุลศัลยศาสตร์แบบขั้นสูง พร้อมกล้องผู้ช่วยและระบบบันทึกภาพ ราคาวงเงิน 10 ล้านบาท จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ชนิดความคมชัดสูงไม่น้อยกว่า 2 หัวตรวจ จำนวน 1 เครื่องในวงเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งโรงพยาบาลเกือบทั้งหมด ได้รับการอนุมัติ ยกเว้นแต่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังไม่อนุมัติให้จัดซื้อ
โดยเฉพาะกล้องจุลทรรศน์ นายแพทย์สาธารณสุขต้องการให้ซื้อแบบไม่ต้องมีที่ฉีดสี ให้จัดซื้อในงบประมาณราคาเท่าเดิมคือ 10 ล้านบาท จึงทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกรรมการจัดซื้อจัดจ้างไม่ยอมลดสเปกอุปกรณ์ จึงเข้าไปพูดคุย และปรากฏออกมาทางโซเชียล ตามบทสนทนาดังกล่าวที่ปรากฏในเพจดัง ส่วนใครเป็นคนอัดคลิปนั้นยังไม่รู้ เพราะวันที่เข้าไปคุย มีแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 2 คน และมีฝ่ายพัสดุ และเลขาสสจ.กาฬสินธุ์ และนายแพทย์สาธารณสุขรวม 5 คน
แหล่งข่าวแจ้งว่า ปัญหานี้ได้สร้างความหวั่นไหวต่อคนในวงการสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากยังปรากฏหลักฐานในประกาศระบบอิเล็กทรอนิกเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ที่ขึ้นประกาศไปแล้วแต่ได้ถูกยกเลิกโครงการ ในวันที่ 24 กันยายน 2567 โดยไม่มีคำชี้แจงใดๆเกี่ยวกับปัญหาการยกเลิกโครงการ ขณะที่อีก 8 โครงการของโรงพยาบาลอำเภออีก 5 แห่งไม่ถูกยกเลิก ปรากฏสถานะโครงการทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ทั้งนี้ข้อสังเกตที่สำคัญจึงตกอยู่ที่เหตุของการยกเลิกโครงการ ว่าสาเหตุใดโครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จึงถูกยกเลิก เพราะเครื่องมือชิ้นนี้ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์เคยขอไปยังกระทรวงสาธารณสุขเมื่อ 6 ปีก่อน แต่ก็พึ่งจะได้รับความอนุเคราะห์จากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในปีนี้
“หากจัดซื้อได้จริง ด้วยศักยภาพแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จะสามารถรักษาผู้ป่วย เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ปัญหานี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าจะแก้ปัญหาเพื่อคนกาฬสินธุ์ได้อย่างไร ขณะที่บางกระแสข่าวว่างบประมาณนี้ยังไม่มีเงินจัดส่งมา แต่กลับกันการจัดซื้อจัดจ้างก็พบว่าการประกาศจัดซื้อจัดจ้างปรากฏเลขรหัสโครงการชัดเจน หากไม่มีงบประมาณหน่วยงานที่รับผิดชอบจะประกาศจัดซื้อจัดจ้างได้อย่าง การที่ทำให้งบประมาณที่สำคัญและเป็นเงินแผ่นดินภาษีของประชาชนจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายและต้องพิสูจน์เพื่อหาความยุติธรรมต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว