สื่อต่างประเทศเผย รัฐบาลจีนเรียกร้องไปยังบริษัทเอกชนต่างๆ ให้เลิกซื้อชิปจาก Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ซึ่งกระแสข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงทันที ในขณะที่หุ้นของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิปจีนปรับพุ่งขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ออกข้อแนะนำไปยังบริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีนให้เลิกใช้ชิป H20 ของ Nvidia ซึ่งแม้จะไม่ใช่ชิปเอไอรุ่นล้ำสมัยที่สุดของบริษัท แต่ก็เป็นชิปที่มีพลังการประมวลผลสูงสุดเท่าที่ Nvidia จะสามารถขายให้กับลูกค้าในจีนได้ ภายใต้มาตรการจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
รายงานนี้ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงทันที 2% และในการซื้อขายก่อนเวลาเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (30) ก็ยังร่วงลงไปอีก 2% ขณะที่บริษัทคู่สัญญาและซัพพลายเออร์ของ Nvidia อย่างซัมซุง, SK Hynix, ไมครอน และ TSMC ก็ได้รับผลกระทบราคาหุ้นตกไปตามๆ กัน
ในทางกลับกัน ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปจีนซึ่งได้รับอานิสงส์จากข้อแนะนำของปักกิ่งกลับดีดตัวสวนทาง โดยหุ้นของ Cambricon และ Semiconductor Manufacturing International Corp หรือ SMIC ซึ่งมีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของบางส่วนทั้ง 2 รายปรับตัวพุ่งขึ้นถึง 20% ในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อวันจันทร์ (30) ส่วนหุ้นของ Naura Technology Group ซึ่งทำเครื่องมือผลิตชิปก็ดีดตัวขึ้นถึง 9.8% ที่ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น
มาตรการจำกัดการส่งออกที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกใช้กีดกันจีนมานานหลายปีมีส่วนปิดกั้นไม่ให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนพัฒนาได้รวดเร็วนัก เพราะทำให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้าถึงชิปรุ่นก้าวหน้าที่สุดได้ และเมื่อถูกปิดกั้นเครื่องมือผลิตชิปที่ล้ำสมัยด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้บริษัทชิปจีนยากที่จะแข่งขันกับพวกผู้ผลิตของตะวันตก
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีของหัวเว่ย (Huawei) ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องสะดุดไปถึง 2 ปี เนื่องจากจำเป็นต้องมีการรีดีไซน์และผลิตชิปเอไอใช้เองในประเทศ ขณะที่ประสิทธิภาพของชิป Ascend 910B รุ่นล่าสุดก็อาจเผชิญข้อจำกัดจากปัญหาด้านการผลิตของ SMIC ซึ่งเป็นคู่สัญญาด้วย
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ (30) โดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายซึ่งระบุว่า ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ของ TikTok กำลังมีแผนนำชิป Ascend 910B มาใช้ในการฝึกฝนโมเดลเอไอ โดยตามรายงานระบุว่าไบต์แดนซ์มีการใช้ชิปรุ่นนี้อยู่แล้วสำหรับงานอนุมาน (inference) ที่ใช้การคำนวณน้อยกว่า แต่หากจะนำไปใช้เพื่อการประมวลผลที่ซับซ้อนขึ้นอย่างการฝึกโมเดลเอไอก็เป็นเรื่องท้าทายอยู่พอสมควร
ไบต์แดนซ์ยังคงปฏิเสธกระแสข่าวเรื่องการสร้างโมเดลเอไอใหม่ แต่หากข้อมูลของรอยเตอร์เป็นความจริงก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดที่ผู้ผลิตชิปจีนกำลังเผชิญ โดยแหล่งข่าวคนหนึ่งให้ข้อมูลด้วยว่า ปัจจุบันหัวเว่ยยังคงส่งมอบชิป 910B ได้ไม่ทันกับความต้องการของไบต์แดนซ์
กระนั้นก็ตาม มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ และพันธมิตรก็บีบให้ผู้ผลิตชิปจีนต้องรู้จักปรับตัวและทำงานให้เร็วขึ้น และเริ่มมีคำเตือนจาก The Information Technology and Innovation Foundation (ITIF) ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบียิสต์ทรงอิทธิพลในด้านเทคโนโลยีเมื่อต้นเดือน ก.ย. ว่า “ความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะฉุดรั้งจีนคงจะไม่ได้ผลในระยะยาว”
ที่มา: Fortune