หมดยุค ขรก.มือเติบ เตรียมปรับเกณฑ์เบิกจ่าย ลดค่ารักษาพยาบาล
ในขณะที่ประชาชนกำลังเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินสำหรับดำรงชีวิตและหมอเพื่อให้สามารถยังมีชีวิตดิ้นรนกันต่อไป แต่อีกด้านระบบข้าราชการไทยที่ส่วนใหญ่ทำงานในห้องแอร์และมีเงินใช้ไม่ขาดมือทุกเดือน กลับปรากฎตัวเลขที่น่าตกใจว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลมากกว่าแสนล้านต่อปี ทำให้กรมบัญชีกลางเตรียมหาแนวทางปรับปรุงตัวเลขให้เกิดความเหมาะสม
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ.กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการปฏิรูปเงินเดือนและสวัสดิการในภาครัฐทั้งหมด ภายหลังงบประมาณรายจ่ายในรายการดังกล่าวสูงมาก โดยเฉพาะงบประมาณค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ ที่มีการเบิกจ่ายปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท ยังไม่รวมงบด้านบำเหน็จบำนาญข้าราชการอีก ซึ่งงบเหล่านี้นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคนอายุยืนขึ้น ขณะเดียวกันมีโรคเกิดใหม่มากขึ้น และยาที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ก็แพงขึ้น ซึ่งกรมบัญชีกลาง จะต้องเข้าไปดูว่า สามารถต่อรองเรื่องราคาได้หรือไม่
“เราต้องมาดูกระบวนการข้าราชการทั้งหมด ตั้งแต่การเข้ารับราชการ เงินเดือน และสวัสดิการทุกอย่าง ซึ่งกรมบัญชีกลางได้คุยหารือกับสำนักงบประมาณและกพ.อยู่ว่า จะทบทวนระบบทั้งหมดในระยะยาว การเข้ารับราชการควรจะเป็นอย่างไรสำหรับคนเข้าใหม่ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปแต่มีหลายแนวทาง เช่น เงินเดือนที่สามารถแข่งขันได้ (Competitive Salary) กับภาคเอกชนได้ หรือ แพคเกจผลตอบแทนคล้ายกับเอกชน หรือเงินเดือนยังจะให้เหมือนเดิมอย่างในปัจจุบัน ” นางแพตริเซีย กล่าว
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำหรับรายจ่ายเงินเดือน เงินสมทบ และค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ ในปีงบประมาณ 2566 มีจำนวนรวมอยู่ที่ 8.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.78% จากปีงบประมาณก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 25.69% ขณะที่รายจ่ายสวัสดิการบุคลากรภาครัฐทุกด้านในปีงบประมาณ 2566 มีจำนวนรวมอยู่ที่ 5.14 แสนล้านบาท ขยายตัว 7.61% จากปีงบประมาณก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 16.15% ของงบประมาณรายจ่าย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย โดยเฉพาะส่วนของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ