นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงฯ มีไอเดียนำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” หรือ “คนละครึ่ง” กลับมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการส่งเสริมตลาดไทยเที่ยวไทย เพราะเป็นแคมเปญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ แม้แต่ร้านอาหารขนาดเล็กก็ได้อานิสงส์ไปด้วย โดยต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแคมเปญลักษณะนี้อย่างละเอียดอีกครั้งว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามที่นายสรวงศ์ได้กล่าวถึงแนวคิดการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อกระตุ้นไทยเที่ยวไทย สร้างความต่อเนื่องของการเดินทางและใช้จ่ายมากขึ้น เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนละครึ่ง หลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงฯ วันแรก เบื้องต้น ททท.ประเมินความพร้อมว่าสามารถดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ทันที หากรัฐบาลมีความชัดเจนด้านนโยบาย เพราะเป็นโครงการที่เคยทำมาแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถใช้งานผ่านระบบของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และแอปพลิเคชันเป๋าตัง
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องพิจารณาประเด็นต่างๆ อีกครั้ง เช่น ประเด็นแพลตฟอร์ม รูปแบบการลงทะเบียน รูปแบบของโครงการจะเน้นให้เที่ยวเฉพาะวันธรรมดาอย่างเดียวหรือไม่ ช่วงเวลาในการเดินทางเป็นช่วงใด หากเป็นช่วงไฮซีซันที่มีนักท่องเที่ยวออกเดินทางมากอยู่แล้วราคาโรงแรมที่พักจะสูงกว่าช่วงปกติ ต้องประเมินงบประมาณด้วยว่ามากน้อยแค่ไหน รวมถึงจำนวนประชากรที่เข้าร่วมโครงการ เดิมกำหนดให้คนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเข้าร่วมได้แบบไม่จำกัดอายุสูงสุด ปัจจุบันมีเด็กรุ่นใหม่อายุ 18 ปีขึ้นไปแล้วมากขึ้น จึงต้องพิจารณาทุกเงื่อนไขอย่างละเอียดและรอบคอบ เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง
"หากรัฐบาลมีนโยบายออกมาชัดเจนว่าจะดำเนินโครงการในรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือคนละครึ่ง ก็พร้อมทำได้ทันที เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ให้นโยบายการทำงานหลักๆ มาแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการหรือเรื่องอะไรที่ดีอยู่แล้ว เราจะสานต่อให้ดีขึ้นไปอีก ส่วนโครงการที่ดีแต่จบไปแล้ว ก็สามารถพิจารณาเพื่อกลับมาทำใหม่อีกครั้งก็ได้" ผู้ว่าการ ททท. กล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ประชาชนต่างฝากถึงรัฐบาลให้กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น โดยเรียกร้องให้รื้อฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนละครึ่ง ที่ประสบความสำเร็จในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งประชาชนต่างชื่นชอบ ให้การตอบรับ และใช้สิทธิ์ในโครงการดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงอยากให้มีการรื้อฟื้นโครงการนี้กลับมาใช้ในรัฐบาลปัจจุบันอีก
ทั้งนี้ เมื่อได้ติดตามการมอบนโยบายของนายสรวงศ์ พบว่า มีแนวทางที่จะใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือคนละครึ่ง กลับมาอีกครั้ง ตนเห็นด้วย และขอสนับสนุนให้เป็นแคมเปญที่ช่วยดึงนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการทุกระดับ กระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่รากฐาน ถึงภูมิภาคและระดับประเทศ เมื่อรัฐบาลไฟเขียวจ่ายเงินสด 10,000 บาทแก่ผู้ที่มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน ประกอบกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง กำลังจะรื้อฟื้นกลับมาใช้อีกครั้ง เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีหรือไฮซีซั่น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ จะมีเงินสะพัดจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (Hotel business operator Sentiment Index: HSI) เดือน ส.ค. 2567 พบว่า ธุรกิจโรงแรมมีทิศทางดีขึ้น สะท้อนจากอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและเดือนเดียวกันปีก่อน โรงแรมประมาณ 60% มีรายได้สูงกว่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด 19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาห้องพัก และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนโรงแรมอีก 40% ยังฟื้นตัวได้ช้า โดยกลุ่มนี้ คาดกว่าจะกลับมามีรายได้เท่ากับช่วงปกติในไตรมาส 2 ปี 2568 เนื่องจากปรับราคาห้องพักได้ยาก เพราะลูกค้ามีความอ่อนไหวต่อราคา และมีการแข่งขันสูง ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในธุรกิจโรงแรม พบว่า โรงแรมที่เผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานมีสัดส่วนใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยโรงแรมราว 40% ยังคงเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทั้งนี้ โรงแรมในภาคกลางมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากกว่าภาคอื่น