xs
xsm
sm
md
lg

อุทยานฯดังในอเมริกาเผย ระบบนิเวศในถ้ำพัง! เหตุเพราะนักท่องเที่ยวมักง่ายทิ้งซองชีโตส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


Photo: Carlsbad Caverns National Park
นักท่องเที่ยวมักง่าย ทิ้ง “ถุงชีโตส” จนทำให้ระบบนิเวศอันเปราะบางในถ้ำพัง อุทยานฯดังในอเมริกา ระบุ ไปเที่ยวธรรมชาติเก็บไปแค่ภาพถ่ายกับความทรงจำ และไม่ต้องทิ้งอะไรไว้

อุทยานแห่งชาติคาร์ลสแบดเคฟเวิร์น (Carlsbad Caverns National Park) แหล่งท่องเที่ยวด้านธรณีวิทยาที่มีชื่อเสียงเรื่องโถงถ้ำและวิถีชีวิตแบบทะเลทรายในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยถึงผลกระทบอันใหญ่หลวงที่เกิดจากพฤติกรรมมักง่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่ง “ทิ้งซองขนมชีโตส” ไว้ในถ้ำ ทำให้ระบบนิเวศภายในถ้ำเกิดการเปลี่ยนแปลง

Photo: Carlsbad Caverns National Park
แฟนเพจอุทยานฯ ระบุว่า สำหรับเจ้าของถุงขนม มีผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศของถ้ำ ข้าวโพดแปรรูปที่อ่อนตัวลงด้วยความชื้นในถ้ำ ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบในการเป็นแหล่งอาศัยของจุลินทรีย์และเชื้อรา ในไม่ช้าจิ้งหรีด ไร แมงมุม และแมลงวัน ก็รวมตัวกันเป็นใยอาหารชั่วคราว กระจายสารอาหารไปยังถ้ำและชั้นหินโดยรอบ เชื้อราแพร่กระจายสูงขึ้นไปบนพื้นผิวใกล้เคียง ผลไม้ตายและมีกลิ่นเหม็น และวัฏจักรนี้ก็ยังดำเนินต่อไป

เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลา 20 นาทีอย่างระมัดระวังในการกำจัดเศษซากและเชื้อราออกจากพื้นผิวถ้ำ ระบบนิเวศที่นี่มาจากการรวมตัวของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในถ้ำและสิ่งมีชีวิตที่มาจากที่อื่น ทำให้ระบบนิเวศในถ้ำซึ่งมีความละเอียดอ่อนต้องเสียสมดุล ดังนั้นถุงขนมที่ทิ้งไว้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ชีวิตของถ้ำนั้นอาจเปลี่ยนแปลงไปราวกับเปลี่ยนโลกเดิม

“ถ้ำแห่งนี้ไม่ใช่ถังขยะขนาดใหญ่” เจ้าหน้าที่ระบุ โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็เก็บขยะที่ทิ้งไว้ทุกวัน “บางครั้งอาจเป็นกระดาษห่อหมากฝรั่ง หรือทิชชู่ บางครั้งก็อาจเป็นของเสียของมนุษย์ น้ำลาย หรือการเคี้ยวยาสูบ”

โถงขนาดใหญ่ที่อุทยานแห่งชาติ Carlsbad Caverns เป็นถ้ำเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดโดยวัดจากปริมาตรในทวีปอเมริกาเหนือ สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีเส้นทางที่ค่อนข้างราบเรียบยาว 2 กิโลเมตร ถ้ำแห่งนี้ก่อตัวเมื่อหลายล้านปีก่อนเมื่อกรดซัลฟิวริกละลายหินปูนจนกลายเป็นทางเดินในถ้ำ

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
กำลังโหลดความคิดเห็น