ศูนย์ข่าวหาดใหญ่- เกิดเหตุนักเรียนหญิงรุ่นพี่ 6 คน ถ่ายคลิปรุมทำร้ายนักเรียนหญิงรุ่นน้อง ประเคนทั้งมือ-เท้าสารพัด ครอบครัวทราบเรื่องพากันไปพูดคุยที่โรงเรียน ก่อนพาไปแจ้งความเนื่องจากรับพฤติกรรมรุนแรงไม่ได้ เหตุเกิดที่โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เทพา จ.สงขลา
วันนี้ (12 ก.ย.) ที่ จ.สงขลา ได้มีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ความยาวประมาณ 30 วินาที ซึ่งในภาพมีกลุ่มเด็กนักเรียนหญิงหลายคนรุมทำร้ายเด็กนักเรียนหญิงเพียงคนเดียว ทั้งเตะ ต่อย ตบ กระชากผม และกระทืบสารพัด โดยตัดต่อเป็นช็อตสั้นๆ และมีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล และผู้พบเห็นต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และทราบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เทพา จ.สงขลา
โดยผู้สื่อได้ได้เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าวและทราบว่า ในช่วงเช้าวันนี้ทางแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายในคลิปพร้อมญาติและเด็กหญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ได้เดินทางไปพบกับทางผู้บริหารของโรงเรียน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนติดภารกิจนอกพื้นที่ และได้ส่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนเข้าประชุมแทน รวมทั้งมีตัวแทนคณะครู และครูที่ดูแลหอพัก และเด็กหญิงฝั่งคู่กรณีพร้อมผู้ปกครอง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.4 จำนวน 2 คน ที่เป็นคนถ่ายคลิป และนักเรียนชั้น ม.6 อีก 4 คน ที่เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกาย
ซึ่งผลในที่ประชุมเบื้องต้นเด็กหญิงที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 6 คน ในฝั่งผู้ก่อเหตุได้ยอมรับว่าได้กระทำจริงตามคลิป และได้กล่าวขอโทษทางผู้เสียหาย ขณะที่ทางโรงเรียนระบุว่าเพิ่งทราบเรื่องเช่นกัน หลังจากที่มีการแชร์คลิปกันอย่างแพร่หลาย กระทั่งในวันนี้จึงได้นัดทุกฝ่ายมาหาข้อยุติ เบื้องต้นในส่วนของทางโรงเรียนได้จัดการกับนักเรียนรุ่นพี่ทั้ง 6 คน โดยการตัดคะแนนความประพฤติคนละ 60 คะแนน และให้ทำทัณฑ์บนเอาไว้ทุกคน และขอให้ยุติเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องแจ้งความอะไรกัน รวมทั้งจะให้ทางทีมสหวิชาชีพเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และช่วงท้ายได้มีการเสนอที่จะเยียวยาให้ทางฝั่งผู้เสียหายเพื่อขอยุติเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด
จากนั้นหลังการเจรจรแล้วเสร็จ ทางแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย คือ นางพันทิวา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี จะพาลูกสาวรวมทั้งญาติเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนักเรียนรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุทั้ง 6 คน เนื่องจากยอมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง และยังมีการเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งสร้างผลกระทบที่หนักหนาสาหัสเข้าไปอีก โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อดูว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ก่อนดำเนินการในทางคดีต่อไป
นางพันทิวา แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย บอกว่า มาทราบเรื่องนี้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (11 ก.ย.) หลังญาติแชร์คลิปในสื่อโซเชียลมาให้ดู ซึ่งตนเห็นภาพลูกสาวโดนกระทำเพียงแค่ 2 วินาทีแรกก็ทำใจรับสภาพไม่ได้แล้ว และเป็นการรกระทำที่รุนแรงมากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ซึ่งจากการประชุมร่วมกันกับฝ่ายที่โรงเรียนปรากฏว่า อยากให้มีการจบเรื่องเอาไว้เพียงแค่นี้ อาจจะมีการเยียวยาผู้เสียหายกันไป แต่ตนไม่ยอมและขอดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายให้ถึงที่สุดก่อน
โดยในส่วนของลูกสาวเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ใน อ.เทพา ในช่วงเทอมนี้ราวเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยอยู่หอพักภายในโรงเรียน และจะกลับบ้านไปหาตนทุกวันวันศุกร์ ซึ่งบ้านตนอยู่ใน อ.จะนะ ซึ่งเป็นอำเภอติดกัน และจะกลับไปเรียนอีกทีในวันจันทร์ วนแบบนี้เป็นประจำ แต่เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ตนเห็นใบหน้าลูกมีบาดแผลคล้ายกับเป็นรอยเล็บ นึกว่าลูกทะเลาะกับเพื่อนตามประสาเด็ก จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และลูกก็ไม่ได้บอกว่าโดนรุมทำร้ายด้วย กระทั่งมาเห็นคลิปดังกล่าว ตนถึงกับทนไม่ไหวอยากบุกไปยังโรงเรียนในตอนนั้นเลย
แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงเรียนนั้นบอกว่าเพิ่งทราบเรื่องเหมือนกัน และไม่มีกล้องวงจรปิดในจุดเกิเหตุ และครูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และเด็กก็ไม่ได้บอกให้ครูหรือทางโรงเรียนทราบด้วย เบื้องต้นจึงได้แต่ตัดคะแนนความประพฤติและทำทัณฑ์บนเพียงเท่านั้น รวมทั้งอยากให้จบเรื่องด้วยดี ไม่ต้องแจ้งความ แต่ตนไม่ยอม และหลังจากนี้คาดว่าจะให้ลูกสาวไปที่โรงเรียนเฉพาะวันที่สอบเท่านั้น และจะให้ย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่นหลังจากนี้
ขณะที่จากการสอบถามเด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี เล่าว่า ในคืนวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนผู้หญิงที่หอพัก และมีรุ่นพี่เข้ามายุ่ง ตนจึงบอกไปว่าอย่าเสือก และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มรุ่นพี่ไม่พอใจ กระทั่งวันรุ่งขึ้นในช่วงเที่ยง รุ่นพี่กลุ่มนี้ 6 คน จึงได้เข้ามารุมทำร้ายตนเองราว 3-4 จุด ในโรงเรียน ทั้งหน้าห้องเรียน หน้าห้องละหมาด และโรงอาหาร รุมทำร้ายสารพัดวิธีจนตนเองบาดเจ็บโดยเฉพาะที่ใบหน้า แต่ไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร จนกระทั่งมีการแชร์คลิปดังกล่าวเมื่อเย็นวานนี้ เมื่อแม่และญาติทราบเรื่องจึงพากันมาเข้าพบและเจรจากันที่โรงเรียน ก่อนจะพาเข้าแจ้งความและดูว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างหลังจากนี้
