xs
xsm
sm
md
lg

กินกันไม่ลง! ผลสำรวจชี้ 'ทรัมป์-แฮร์ริส' คะแนนนิยมสูสี ก่อนศึกดีเบตนัดแรกวันพรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดเผย โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน และรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมสูสีกันอย่างมาก ก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์หนแรกในวันอังคารนี้ (10 ก.ย.)

ผลสำรวจโดย New York Times/ Siena College ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ย.) พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำ แฮร์ริส 1 แต้มอยู่ที่ 48% ต่อ 47% ซึ่งเป็นส่วนต่างที่ไม่มีนัยสำคัญภายใต้ค่าความผิดพลาดของโพลซึ่งอยู่ที่บวกลบไม่เกิน 3% นั่นหมายความว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีโอกาสมากพอๆ กันที่จะชนะศึกเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.

แม้แคมเปญหาเสียงของ ทรัมป์ จะซวนเซไปบ้างหลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศถอนตัว และส่ง กมลา แฮร์ริส ขึ้นมาเป็นผู้พรรคเดโมแครตแทนเมื่อเดือน ก.ค. แต่ผลสำรวจล่าสุดของหลายสำนักบ่งชี้ตรงกันว่ากลุ่มประชากรที่เป็นฐานเสียงหลักของ ทรัมป์ ยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิม

โพลฉบับนี้ยังพบด้วยว่า ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนยังไม่ค่อยเข้าใจจุดยืนและนโยบายต่างๆ ของ แฮร์ริส เท่าไหร่นัก ขณะที่ความเข้าใจของพวกเขาต่อ ทรัมป์ นั้น "ชัดเจน" อยู่แล้ว โดย 28% ยอมรับว่ายังต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครของเดโมแครตมากกว่านี้ แต่มีเพียง 9% ที่รู้สึกแบบเดียวกันกับ ทรัมป์

จากตัวเลขที่ออกมาทำให้เห็นได้ว่า ศึกดีเบตนัดแรกระหว่าง ทรัมป์ กับ แฮร์ริส ในวันพรุ่งนี้ (10) อาจจะเป็นอีกหนึ่งจุดพลิกผันที่สำคัญของศึกเลือกตั้ง

แฮร์ริส จะได้มีโอกาสแจกแจงนโยบายต่างๆ ของเธอให้ชาวอเมริกันเข้าใจมากยิ่งขึ้นระหว่างที่ประชันวิสัยทัศน์กับ ทรัมป์ เป็นเวลา 90 นาที และเนื่องจากคะแนนนิยมของทั้งคู่สูสีกันอย่างยิ่ง ศึกดีเบตครั้งนี้จึงอาจสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมีนัยสำคัญหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผลงานออกมาได้ดีกว่า

นับตั้งแต่ แฮร์ริส ก้าวเข้ามาถือตั๋วผู้แทนพรรคเดโมแครต เธอก็ตระเวนเดินสายพบปะประชาชนอย่างแข็งขัน แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการแสดงวิสัยทัศน์แบบ "อ่านบท" ที่เตรียมเอาไว้แล้ว และยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างๆ น้อยมากด้วย

ผลสำรวจครั้งนี้ออกมาคล้ายคลึงกับโพลของ New York Times/ Siena College เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนำ แฮร์ริส อยู่ 1 แต้มเช่นกัน

สำหรับผลโพลใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. ก็พบว่าผู้สมัครทั้ง 2 รายยังคงมีคะแนนนิยมตีคู่สูสีกันอย่างมาก

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น