อาคารบีบีดี (BBD) บนถนนวิภาวดีรังสิต กลายเป็นสถานที่ทำกิจกรรมทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ การแถลงเปิดใจหลังได้รับการโหวตในสภาฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมตรี
โดยที่ก่อนหน้านี้ ในการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ต้องใช้ห้องประชุมสัมมนา อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต เพราะผู้บริหารพรรคได้แจ้งต่อสมาชิกเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าว่า หลังจากนี้จะย้ายที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยวางแผนจะใช้อาคารวอยซ์ทีวีเดิม แต่อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารเพื่อให้มีความพร้อม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
ส่วนที่ทำการพรรคเพื่อไทยเดิม คือ อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ (OAI Tower) ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จะถูกนำไปใช้ในทางธุรกิจอย่างเต็มตัว เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า เนื่องจากที่ผ่านมาสมาชิกพรรคเพื่อไทยบ่นว่าการเดินทางไม่สะดวก การจราจรติดขัด
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เคยยอมรับว่าที่ทำการพรรคจะย้ายไปอยู่ที่สำนักงานวอยซ์ทีวี เพราะมีหลายเหตุผล เพราะก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ก็มีแนวคิดที่จะย้ายที่ทำการพรรคอยู่แล้ว เพราะอาคารโอเอไอในปัจจุบัน มีสำนักงานของบริษัทอื่นอยู่ในตึกด้วย เมื่อเวลาพรรคมีกิจกรรมก็กระทบกับการทำงานของบริษัทอื่น นอกจากนี้ ยังต้องดูองค์ประกอบในหลายมิติ ทั้งเรื่องที่จอดรถ และการเดินทางของสมาชิกพรรคประกอบด้วย
ส่วนนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เคยยอมรับว่าการย้ายที่ทำการพรรคเป็นการปรับฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทักเรื่องการปรับเปลี่ยนที่ทำการพรรค ขณะนี้ใช้อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 เป็นที่ทำการพรรคชั่วคราว ซึ่ง สส. ในพรรคมีความสุขมาก ยิ้มกันทุกคน ใครๆ ก็บอกว่าโชคดีมากที่ย้ายที่ทำการพรรคมาที่นี่
ว่ากันว่าเหตุที่ย้ายที่ทำการพรรคเพื่อไทย มาจากที่ผ่านมากระแสพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยตั้งอยู่ในตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ดูร้อนแรงกว่า ถึงขนาดเปรียบเทียบทางออกที่จอดรถว่า ทางออกเพื่อไทย คือทางเข้าอนาคตใหม่ ขณะที่ผ่านมามี สส.ถูกดูดไปอยู่พรรคภูมิใจไทยนับสิบคน จึงต้องปรับฮวงจุ้ยที่ทำการพรรคมาแล้วหลายรอบ ทั้งการวางโต๊ะพร้อมแจกันดอกไม้ที่ประตูทางออก การปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าโดยเพิ่มบันไดลงไป และการสลับทางเข้าให้อยู่ฝั่งเดียวกับอาคารไทยซัมมิท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 เม.ย. สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการ และยุติการออกอากาศทุกช่องทาง เพราะผู้บริหารและผู้ถือหุ้นมีความเห็นสรุปปิดกิจการ กระทั่งได้ทยอยยุติออกอากาศแต่ละรายการที่ต้องใช้สตูดิโอตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา เหลือบางรายการที่ออกอากาศทางสตรีมยาร์ด เพื่อทยอยเก็บของและส่งมอบสถานที่ให้กับเจ้าของอาคาร
สำหรับอาคารบีบีดี เดิมคืออาคารโกดักเก่า บนพื้นที่ 12 ไร่ เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของ บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสัญชาติอเมริกันจำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพ เมื่อปี 2526 ก่อนที่จะย้ายไปยังอาคารเกษมทรัพย์ ใกล้กับสำนักงานใหญ่การบินไทย แต่ย้ายออกไปหลายปีแล้ว จากนั้นกลายเป็นที่ตั้งของวอยซ์ทีวีในปี 2552 และมหาวิทยาลัยชินวัตร วิทยาเขตกรุงเทพฯ
ที่ผ่านมา วอยซ์ทีวีเคยนำพื้นที่ส่วนหนึ่ง ประมาณ 1,200 ตารางเมตร เป็นสตูดิโอเพื่อให้เช่าพื้นที่จัดงาน โดยใช้ชื่อว่า วอยซ์ สเปซ ใช้งบลงทุนราว 80 ล้านบาท จุคนได้ประมาณ 1,000 คน เคยใช้จัดงานคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ต่างๆ ส่วนด้านหน้าเป็นอาคารสูง 5 ชั้น พื้นที่ให้เช่าทั้งอาคารประมาณ 4,000 ตารางเมตร ความสูงของชั้้น 2.60 เมตร
ทำเลที่ตั้งของอาคารบีบีดี อยู่ติดกับสโมสรทหารบก ก่อนถึงแยกสุทธิสาร ถือว่าใกล้อาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อเทียบกับที่ทำการเดิม ใกล้ทางลงทางด่วนดินแดง หรือหากมาจากดอนเมืองโทลล์เวย์ ลงทางลงดินแดงแล้วกลับรถที่แยกดินแดงก็ได้ ส่วนระบบขนส่งมวลชน ไม่มีรถไฟฟ้าผ่าน แต่มีรถเมล์ผ่านประมาณ 10 สายให้เลือก
ปัจจุบันแม้วอยซ์ทีวีจะปิดกิจการไปแล้ว แต่ยังมีมหาวิทยาลัยชินวัตร วิทยาเขตกรุงเทพฯ บริษัท ไวฟ์ ดิจิตอล จำกัด บริษัท ม็อกกิ้งเบิร์ด จำกัด บริษัท เวิร์คส์ ครีเอทีฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.แพทองธาร และนายเฉลิม แผงศร ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ พรรคเพื่อไทยก็จะมาใช้เป็นสำนักงานใหญ่ต่อไป