แม้การหารือกันระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อค่ำวันที่ 14 ส.ค. หลังนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะเสนอให้นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และอดีตอัยการสูงสุด เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็น้อมรับ แต่ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ในเช้าวันที่ 15 ส.ค. ปรากฎว่าสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างท่วมท้น
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุผลสำคัญที่ สส.พรรคเพื่อไทย หักหน้าดีลนายใหญ่จันทร์ส่องหล้า สรุปออกมาง่ายๆ ก็คือ
1. อุ๊งอิ๊งลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ และผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ว่า จะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตาม
2. สังคมเห็นภาพเด่นชัดว่าอุ๊งอิ๊งเป็นตัวแทนของนายทักษิณ คนที่เลือกอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเลือกทักษิณ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว อุ๊งอิ๊งและนายทักษิณมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค
3. อุ๊งอิ๊งเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ มีพละกำลังเหลือเฟือ คิดอ่านบริหารเหลือเฟือ อยู่ในวัยที่กำลังเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี (อุ๊งอิ๊งเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2529 กำลังจะอายุครบ 38 ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า)
นอกจากนี้ สส.พรรคเพื่อไทยยังเสนอให้คงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทต่อไป เนื่องจากเป็นนโยบายที่ได้หาเสียงไว้
ส่วนเหตุผลที่ไม่เลือกนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น สส.ส่วนหนึ่งเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในอดีตนายชัยเกษมเคยพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เกรงว่าจะทำให้เป็นปัญหาตามมาได้
อย่างไรก็ตาม แม้ สส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่หนุนให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายอำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีคำตอบภายในเย็นวันนี้ (15 ส.ค.)