รัฐบาลเอาจริง ดันกฎหมายกาสิโน เจ้ามือต้องมีเงินหมื่นล้าน

รัฐบาลเอาจริง ดันกฎหมายกาสิโน เจ้ามือต้องมีเงินหมื่นล้าน

เหมือนว่ารัฐบาลค่อนจะเอาจริงเอาจังกับการผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … (กฎหมายกาสิโน) พอสมควร ภายหลังมีรายงานข่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า การเรียกประชุมในวันดังกล่าวเนื่องจากตนติดภารกิจเดินทางไปประเทศคาซัคสถานในวันที่ 13 ส.ค. จึงต้องเรียกประชุม แต่ไม่ได้มีวาระอะไรเป็นพิเศษ ถือเป็นการประชุมประจำเดือนอยู่แล้ว โดยในการประชุมจะมีการหารือกฎหมายที่จะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรว่ามีกฎหมายอะไรบ้างและมีกฎหมายกี่ฉบับ รวมถึงจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกาสิโน

สำหรับร่างพระราชบัญญัติฯ มีทั้งสิ้น 65 มาตรา มีสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ได้แก่ “หลักการ” ให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยได้ระบุเหตุผลถึงความจำเป็นที่ต้องตรากฎหมายว่า โดยที่ปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นภาคอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก และธุรกิจสถานบันเทิงเป็นกิจกรรมสำคัญที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้ใช้จ่าย การส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว จึงเป็นมาตรการสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวม และเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

นอกจากนี้ กำหนดให้มี 'คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร' (คณะกรรมการนโยบายฯ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่ง 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน และมีเลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น และต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

ผู้ประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรจะมีได้เฉพาะบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท เมื่อได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบาย ใบอนุญาตจะมีอายุสามสิบปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยทุกห้าปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ให้สำนักงานประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรของผู้รับใบอนุญาต และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่ออาจพิจารณาทบทวนรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร