ข้องใจยื้อประหาร 'บรรยิน' ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ผวา หวั่นได้รับอภัยโทษพ้นผิด
คดีการฆ่า 'ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง' หรือ เสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศของ 'บรรยิน ตั้งภากรณ์' จบสิ้นอย่างเป็นทางการแล้วภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษายืนให้ประหารชีวิตบรรยินตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ทว่าในข้อเท็จจริง ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการดำเนินการประหารชีวิตให้เป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งจากปัญหาตรงนี้ทำให้นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ ยื่นหนังสือถึง นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้บังคับโทษประหาร เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยนานไปอาจได้รับการอภัยโทษ
พี่สาวของนายชูวงษ์ อธิบายเหตุผลต่อกรมราชทัณฑ์ว่า เมื่อศาลฎีกาตัดสินถึงขั้นสุดท้ายแล้ว สามารถที่จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งตามกรอบเวลาแล้ว นักโทษจะมีกรอบเวลา 60 วัน แต่นายบรรยิน แม้ถูกศาลฎีกาสั่งพิพากษาให้ประหารชีวิต ก็ยังมีพฤติการณ์พยายามหลบหนีออกจากเรือนจำ จึงเห็นว่ากรมราชทัณฑ์ ควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
"ครอบครัวต่อสู้ในคดีนี้มานานกว่า 9 ปี ที่ผ่านมา ก็ถูกคุกคาม ข่มขู่ ใช้ชีวิตอย่างระวังตัว และหากในอนาคตนายบรรยิน ได้รับการอภัยโทษและมีการลดโทษเรื่อยๆ จนสักวันอาจถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ ก็เป็นกังวลว่าครอบครัวจะปลอดภัยหรือไม่ อยากให้ทำตามคำพิพากษาศาลฎีกา และการอภัยโทษเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักโทษที่กลับตัวกลับใจ แต่นักโทษคนนี้มีพฤติกรรมซ้ำซาก" เหตุผลจากนางวันเพ็ญ
ด้าน นายสมภพ สังคุตแก้ว รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ขั้นตอนปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ สำหรับกรณีผู้ต้องขังที่ศาลฎีกาพิพากษาตัดสินโทษประหารชีวิตนั้น ผู้ต้องขังจะต้องรวบรวมเอกสาร ยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ภายใน 60 วันหลังศาลมีคำพิพากษาตัดสิน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า นายบรรยิน ยื่นเรื่องอภัยโทษจากเรือนจำบางขวางแต่อย่างใด