'อัยการ' อลหม่าน ตัวปลอมหลอกชาวบ้าน ตัวจริงเรียกสินบน

'อัยการ' อลหม่าน ตัวปลอมหลอกชาวบ้าน ตัวจริงเรียกสินบน

เกิดอะไรขึ้นกับองค์กรอัยการทั้งๆที่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีการปรับเปลี่ยนอัยการระดับอธิบดียกแผง แต่กลับเกิดเรื่องไม่เป็นเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกันถึงสองเรื่อง

เรื่องแรก เป็นกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างว่าตัวเองเป็นอัยการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมได้ทีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีตามหมายจับของศาลตลิ่งชัน สอบสวนขยายผลพบว่านายมงคล มีการโพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการ พร้อมกับประดับเครื่องหมาย

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีหนังสือรับรองที่ อส 0058 (ธัญบุรี)/พิเศษ ของสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ปทุมธานี ลงนามโดยอัยการจังหวัดธัญบุรีในขณะนั้น เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 รับรองว่า นายมงคล ที่ปรึกษาอธิบดีอัยการ งานการสอบสวน (ร้อยตำรวจโท อุทัย) ตำแหน่ง อธิบดีอัยการการสอบสวน รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด มีตำแหน่งเทียบเท่า ข้าราชการอัยการระดับ 5 เทียบเท่าตำแหน่งผู้บริหาร ปฏิบัติราชการ ให้แก่ผลดีแก่สำนักงานอัยการสูงสุด

เรื่องที่สอง เป็นกรณีการกระทำความผิดอาญาในข้อหาเรียกรับสินบนของพนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการจับกุม นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อายุ 53 ปี อัยการผู้กลั่นกรอง สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดี ลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท

ทั้งนี้ หลังจากจากที่นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดทราบเรื่อง มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายอัยการคนดังกล่าวเข้ามาส่วนกลางโดยด่วนเละยังได้สั่งการ นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8รายงานข้อเท็จจริงเข้ามาภายในวันนี้ด้วย

ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลีกเลี่ยงที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรไม่ได้ หากผลการตรวจสอบออกมาจะดำเนินการเด็ดขาดทั้งในคดีอาญาเเละวินัย ที่ผ่านมาทางสำนักงานอัยการสูงสุดถือว่า เรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อองค์กรอัยการร้ายเเรง ถ้าเกิดเหตุทำนองนี้สำนักงานอัยการจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดทุกเรื่อง