กระทรวงกีฬาแห่งเกาหลีใต้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีสเมื่อค่ำวานนี้ (26 ก.ค.) หลังทัพนักกีฬาแดนโสมขาวถูกแนะนำผิดว่ามาจาก “เกาหลีเหนือ”
ในขณะที่ทัพนักกีฬาเกาหลีใต้ลงเรือล่องไปในแม่น้ำแซนเข้าสู่พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเป็นชาติที่ 48 ปรากฏว่าพิธีกรที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้ประกาศแนะนำพวกเขาด้วยชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือ คือ “République populaire démocratique de Corée” ก่อนจะตามมาด้วยชื่อภาษาอังกฤษว่า “Democratic People's Republic of Korea”
ความผิดพลาดนี้ได้ก่อปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากฝั่งเกาหลีใต้ มหาอำนาจทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ยังคงเป็น “คู่สงครามทางเทคนิค” กับเกาหลีเหนือ เนื่องจากสงครามเกาหลีในปี 1950-53 นั้นถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงเท่านั้น
กระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ระบุในคำแถลงวันนี้ (27) ว่า “ขอแสดงความไม่พอใจต่อคำประกาศระหว่างพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 ซึ่งคณะนักกีฬาผู้แทนเกาหลีใต้ถูกแนะนำว่าเป็นนักกีฬาจากเกาหลีเหนือ”
จาง มี-รัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาเกาหลีใต้คนที่ 2 ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬายกน้ำหนักในโอลิมปิกปี 2008 ได้ยื่นเรื่องขอเข้าพบกับ โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ทันที เพื่อหารือถึงต้นตอของความผิดพลาดครั้งนี้
กระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ยังขอให้กระทรวงการต่างประเทศ “ยื่นหนังสือประท้วงอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลฝรั่งเศส” สำหรับกรณีนี้ด้วย
คณะกรรมการโอลิมปิกเกาหลีใต้มีแผนที่จะเข้าพบคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส รวมไปถึง IOC เพื่อประท้วงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเรียกร้องมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก นอกจากนี้ ยังได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการในนามหัวหน้าคณะนักกีฬาเกาหลีใต้ด้วย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าทัพนักกีฬาโสมแดงซึ่งเข้าสู่พิธีเปิดเป็นชาติที่ 153 กลับได้รับการแนะนำชื่อประเทศอย่างถูกต้อง
ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีเรียกว่าอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยเกาหลีเหนือหันไปกระชับความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย แถมยังส่ง “บอลลูนขยะ” ลอยข้ามพรมแดนเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในเกาหลีใต้ด้วย
รัฐบาลเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการใช้เครื่องขยายเสียงตามแนวชายแดนเปิดเพลง K-pop และเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อโจมตีระบอบ คิม จองอึน และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณหมู่เกาะชายแดน รวมถึงใกล้ๆ กับเขตปลอดทหารที่แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็น 2 ฝั่งด้วย
ที่มา : เอเอฟพี