xs
xsm
sm
md
lg

แกะปมคดีเพื่อนฆ่าเพื่อนมัดศพถ่วงน้ำ สังเวยรักสามเส้า 2 หนุ่มใหญ่ท่าตะโก 1 สาวไพศาลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นครสวรรค์ – พบเหยื่อถูกยิงเจาะอก-ทุบหัว ทิ้งศพ/มอเตอร์ไซค์ อำพรางก้นสระห่างบ้าน 50 เมตร ด้านแม่ค้าสาวชนวนเหตุยันสองหนุ่มคิดกันไปเอง-ไม่เคยคบหาคนตาย แค่เป็นเพื่อนคุย-ไม่มีแม้แต่เบอร์มือฆ่า


กรณีเพื่อนฆ่าเพื่อนมัดศพทิ้งถ่วงน้ำ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ซึ่งคนร้าย คือนายรุ่ง อายุ 54 ปี ให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่านายยอดรัก แป้นเพชร อายุ 53 ปี เนื่องจากผู้ตายเกิดความหึงหวงหญิงสาวรายหนึ่งชาวไพศาลี แล้วบุกมาหาถึงบ้านเมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพยายามจะเอามีดมาจ้วงแทง จึงต้องลงมือฆ่าด้วยไม้หน้าสามกระหน่ำตีที่หัวจนตาย เพื่อเป็นการณ์ป้องกันตัว นำศพมัดถ่วงทิ้งสระน้ำ กระทั่งพบศพเมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งล่าสุด บ่ายวันที่ 26 ก.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าตะโก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนายรุ่งอีกครั้ง เนื่องจากมีผลการชันสูตรตรวจสอบสภาพศพคนตายออกมา ระบุว่า สาเหตุการณ์ตายมาจากถูกกระสุนปืนลูกปรายยิงเข้าที่บริเวณช่องอก สวนทางกับคำให้การของนายรุ่ง ที่ให้การรับสารภาพว่า ฆ่าเพื่อป้องกันตัวด้วยไม้หน้าสาม

หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก็พบอาวุธปืนลูกซองยาว ลูกซองสั้น อย่างละ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซองอีกจำนวนหนึ่ง ถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณคันนา ซึ่งอยู่ห่างจากข้างบ้านของนายรุ่งไปประมาณ 100 เมตร เบื้องต้นพบว่า ปืนลูกซองยาวหัก-ใช้การไม่ได้ ส่วนปืนลูกซองสั้นยังใช้การได้ปกติ มีกระสุนอยู่ในรังเพลิงอีก 1 นัด จึงนำไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่นายรุ่งใช้ก่อเหตุยิงนายยอดรักหรือไม่ พร้อมสอบปากคำในนายรุ่งเพิ่มเติม เพื่อให้ความจริงกระจ่างในการดำเนินคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดอนคา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพให้กับนายยอดรัก โดยผู้สื่อข่าวพบเจอกับนางนันท์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคนตาย บอกว่า ผลตรวจโรงพยาบาลชัดเจนแล้ว ว่าเป็นการฆ่านายยอดรักด้วยอาวุธปืน พบลูกปรายจากปืนลูกซองฝังอยู่ที่ช่องอกของนายยอดรักถึง 4 เม็ด เหมือนเป็นการจงใจยิงให้ตายเลย ไม่ได้ฆ่าเพื่อป้องกันตัวอย่างอ้างกับตำรวจ ซึ่งทราบว่า ก่อนหน้านี้นายรุ่งเคยประกาศกับเพื่อนๆ เอาไว้อยู่ก่อนหลายวันแล้ว ว่าหากถูกผู้ตายบุกมาหาที่บ้าน จะยิงทิ้งทันที


“เรื่องหึงหวงหญิงคนเดียวกัน มันก็เรื่องจริงนั่นแหละ ทั้งคู่เขาทะเลาะเคืองกันด้วยเรื่องนี้มาเกือบเดือนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาหึงหวงกันยังไง แต่ช่วงนั้นนายรุ่งได้ไปป่าวประกาศกับบรรดาเพื่อนไว้ว่าจะยิงนายยอดรักให้ตาย”

กระทั่งวันที่เกิดเหตุ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนายรุ่งและนายยอดรักได้ไปเจอกันที่งานบวชงานหนึ่ง ซึ่งก็มีการตั้งวงนั่งดื่มกินกันกับเพื่อนๆ แต่นายรุ่งไม่ได้ดื่ม จากนั้น ก็พากันแยกย้ายกลับบ้านพัก จึงไม่แน่ใจว่า เรื่องที่นายรุ่งเคยประกาศเอาไว้จะยิงให้ตายไปเข้าหูของนายยอดรักหรือ เพราะพอกลับมาถึงบ้าน เจ้าตัวที่มีอาการเมามาย ก็รีบสตาร์ทรถขี่ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หายตัวไปทั้งคนทั้งรถ ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่ง มาพบว่าถูกนายรุ่งฆ่าตายดังกล่าว

ขณะที่นางประยงค์ แป้นเพชร 76 ปี มารดาของคนตาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนจะไม่อโหสิกรรมให้กับนายรุ่งอย่างแน่นอน เพราะมันลงมือฆ่าได้เหี้ยมโหดมาก แต่ก็ยังปากแข็งอ้างว่าเป็นการฆ่าเพื่อป้องกันตัว ส่วนเรื่องหึงหวงผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และลูกชายเคยบอกเอาไว้ว่า ถูกผู้หญิงหลอกเอาเงินไปเป็นแสนจนจะหมดตัว จึงถูกพยายามตีตัวออกห่าง


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบเสาะหาข้อมูลอีกด้าน จึงได้มีการติดต่อสอบถามกับหญิงสาวที่นายยอดรักคบหา และหึงหวงจนถูกฆ่า ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากหญิงสาวรายนี้ว่า ไม่เป็นความจริงเลย เพราะไม่เคยมีการคบหาฉันชู้สาวกับนายยอดรักเลยแม้แต่น้อย แค่พูดคุยกันเหมือนเพื่อนคุยเท่านั้น

สาวไพศาลีรายนี้ ระบุอีกว่า รู้จักกับนายยอดรักได้เพียง 3-4 เดือน และนานๆ จะเจอกันครั้ง ส่วนใหญ่จะคุยกันทางโทรศัพท์มากกว่า และก็เคยบอกกับนายยอดรักไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ไม่สามารถคบเชิงชู้สาวกับนายยอดรักได้ เนื่องจากเจ้าตัวอายุมากกว่านายยอดรักหลายปี และก็เพิ่งจะรู้จักกัน เลยไม่รู้แท้จริงว่า นายยอดรักไปคบหากับใครอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอยากจะคบหากับนายยอดรักแบบคนรักอยู่แล้ว เลยขอเป็นแค่เพื่อนคุย


ส่วนนายรุ่ง ก็ยืนยันว่า ไม่เคยแอบพูดคุยอะไรใดๆ เลย แม้แต่เบอร์โทรก็ยังไม่เคยมี และตอนที่รู้จักกับนายรุ่งนั้น ก็เป็นนายยอดรักพามาแนะนำให้รู้จักกันในงานบวชเอง จึงยืนยันว่า การที่นายยอดรักหึงหวงแล้วไปทะเลาะกับนายรุ่งนั้น นายยอดรักเป็นฝ่ายคิดไปเองข้างเดียว แล้วก็ไปออกลูกหึงหวงใส่นายรุ่ง ทั้งที่ไม่เคยไปพูดคุยมีอะไรกัน ก็จะเจอกับนายรุ่งตามงานบุญเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ตนก็คุยไปตามประสาคนรู้จัก

ส่วนเรื่องที่ทางนั้น เขามากล่าวหาว่าไปหลอกเอาเงินนายยอดรักนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ตนฟ้องเอาได้นะ เพราะไม่เคยไปเอาสักสลึงแดงเดียวจากนายยอดรักเลย เนื่องจากตนเองก็มีอาชีพค้าขาย ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ชีวิตก็ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น