xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาล ขอแรงธปท. ช่วยแก้หนี้ครัวเรือนผ่อนบ้าน-ผ่อนบัตรเครดิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รัฐบาล ขอแรง ธปท. ช่วยแก้หนี้ครัวเรือนผ่อนบ้าน-ผ่อนบัตรเครดิต

เวลานี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลกำลังพยายามชูนิ้วก้อยเพื่อขอเกี่ยวนิ้วคืนดีธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมีมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องขอแรงธปท.หลายเรื่อง

1.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวการคลังประสานงานกับธปท.พิจารณาปรับลดอัตราการชำระคืนขั้นต่ำบัตรเครดิต (Minimum Pay) กลับมาที่ 5% หลังจากที่ตั้งแต่ปี 2567 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 8% เนื่องจากขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชนกำลังลำบาก โดยปัจจุบัน มีสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ราว 24 ล้านใบ พบว่ามีบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระเกิน 90 วัน หรือเป็นหนี้เสีย (NPL) มากกว่า 1 ล้านใบ และมีหนี้ที่กำลังจะเสียเพิ่มอีกกว่า 2 แสนใบ ซึ่งหนี้บัตรเครดิตมีดอกเบี้ยปรับในอัตราสูง

2.ขอความร่วมมือกับ ธปท. หารือกับธนาคารพาณิชย์ในการปรับโครงสร้างหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยยืดเวลาชำระหนี้ได้นานขึ้น เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาเพิ่มขึ้น
สินเชื่อบ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อ 34% ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด ปัจจุบันมีกลุ่มที่จ่ายหนี้บ้านต่อไม่ไหวกว่า 80,000 ราย จึงมีมาตรการเปิดให้ลูกหนี้กลุ่มนี้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ โดยการเพิ่มระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 80-85 ปี เพื่อลดภาระการผ่อนชำระต่องวด ซึ่งมีผู้มาเข้าร่วมแล้วกว่า 5 หมื่นราย

3.ปัญหาหนี้รถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะและมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินของประชาชน กำลังประสบปัญหาผิดนัดชำระมากขึ้นและปัญหาการปล่อยสินเชื่อรถใหม่ที่หดตัวลงจากความเสี่ยง ซึ่งจะมีการเรียกพบผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนให้กลับมารายงานแนวทางอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) หรือราว 10 ล้านล้านบาท มีหนี้เสียกว่า 1 ล้านล้านบาท และหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าหนี้เสียจะเพิ่มขึ้น จากข้อมูลหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) ซึ่งหมายถึงหนี้ค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ซึ่งผ่าเข้าไปดูแล้วพบว่า ครึ่งหนึ่งเป็นหนี้บ้านกับหนี้รถยนต์ ต่อมาคือหนี้บัตรเครดิต และหนี้การใช้จ่ายเพื่อบริโภค ซึ่งรัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อแก้ไขต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น