xs
xsm
sm
md
lg

ตร.บุรีรัมย์สรุปสำนวนคดีชายลักลูกชิ้นยืนกิน ไปป้อนแม่ป่วยติดเตียง- ลูก 4 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตำรวจบุรีรัมย์เห็นใจชายขโมยลูกชิ้นไปป้อนแม่ป่วยติดเตียง กับลูก 4 คน แต่จำใจฟ้องทั้ง 2 ข้อหาลักทรัพย์เวลากลางคืน- ใช้ยานพาหนะ เพราะคดียอมความไม่ได้ สรุปสำนวนคดีพรุ่งนี้ ด้านรองโฆษกอัยการยอมรับเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ

วันนี้ (9 ก.ค.) ความคืบหน้า คดีตำรวจจ.บุรีรัมย์จับนายบุญเที่ยง พิทักษ์พันธุ์ หรือ ธงอายุ 50 ปี ซึ่งขี่จยย.ไปขโมยลูกชิ้นยืนกินของแม่ค้าที่วางไว้บนตู้แช่หน้าร้าน จำนวน 1ถุง มูลค่า 300 บาท ภายในตลาดไนท์บาร์ซ่า อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อไปป้อนแม่ป่วยติดเตียงกับลูก 4 คน เมีย 1 คน โดยเฉพาะคนเล็กวัยแค่ 5 ขวบ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ร.อ.สุพจน์ ตึกกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ว่า หลังจากนำตัวนายบุญเที่ยงไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ตนไม่แน่ว่าผู้ต้องหาถูกขังมาตลอดในชั้นฝากขังหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่มีประกัน และศาลก็อนุญาตให้ฝากขังท่าที่จำเป็นแค่ 4 ผลัดหรือ 48 วันเท่านั้น

พนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า คดีนี้ได้แจ้งข้อหาว่าลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและโดยใช้ยานพาหนะ เมื่อสอบสวนแล้วไม่พบความผิดอื่น ประวัติการกระทำผิดอื่นไม่มีเลย และรู้สึกสงสารเนื่องจากเขาอยู่ในคุก แต่มีคนในครอบครัวหลายคนอยู่ข้างหลังต้องลำบาก และทราบว่ามารดาก็ป่วยติดเตียง ผู้ต้องหาขโมยลูกชิ้นไปให้ มารดาที่ป่วยกินประทังความหิว แต่พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องสอบสวนไปตามกฎหมายแม้ผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความแต่เนื่องจากเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ จึงต้องสรุปสำนวนฟ้องทั้ง 2 ข้อหาและจะนำไปส่งสำนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์พรุ่งนี้

นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเผยว่า ตนทราบว่าได้มีการประสานงานเบื้องต้นน่าจะมีการส่งสำนวนให้อัยการแต่ไม่ต้องเอาตัวมาด้วยเพราะขังอยู่ สำนักงานอัยการสูงสุดได้ติดตามคดีนี้มาตลอด เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เท่าที่ทราบนายบุญเที่ยงไม่มีประวัติอาชญากรรมอื่น หากมีความคืบหน้าจะแถลงต่อไป

ด้านนายไสลเกษ วัฒนพันธ์ ผู้พิพากษาอาวุโส อดีตประธานศาลฎีกา เจ้าของวลี"คุกไม่ได้มีไว้ขังคนจน" ให้ความเห็นว่า ในอดีตเคยมีคดีชายลักขนุนนำแให้ลูกกินและศาลลงโทษตามกฎหมาย ผู้พิพากษาที่ตัดสินเองก็เกิดความไม่สบายใจ ต่อมาเมื่อยี่สิบปีก่อนเกิดคดี"เด็กซาลาเปา"ลักสินค้าในห้างที่ขายไม่หมดต้องทิ้ง โดยอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมาแล้ว

"ทุกวันนี้ คนหาเช้ากินค่ำปากกัดตีนถีบ บางคนทำผิดเพราะยากจนแสนเข็ญ จึงต้องทำผิดมีโทษตามกฎหมาย อย่างคดีลักลูกชิ้นไปทอดให้แม่ป่วยกิน ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงนี้ได้ ปรากฎแก่บุคคลที่มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่" นายไสลเกษกล่าว

ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ส่งสำนวนถึงอัยการจังหวัดแล้ว ยอมรับเห็นใจหลังสอบสวนพบลูกชิ้นที่ขโมยไปเอาไปเลี้ยงครอบครัวยากจนแม่ป่วยติดเตียงพ่อป่วยอัลไซเมอร์ กรณีเจ้าของบริษัทผลิตลูกชิ้นยืนกิน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นำคลิปวงจรปิดไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุพจน์ ตึกกระโทก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าได้ถูกบุคคลในคลิปวงจรปิดขโมยลูกชิ้นที่วางไว้หน้าร้านจำนวน 1 ถุงจากที่วางไว้ 2 ถุง มูลค่าประมาณ 300 บาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง สามารถจับกุมนายบุญเที่ยง หรือธง พิทักษ์พันธุ์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 57 ม.5 บ้านหนองกระทิง ต.หนองกระทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ บุคคลในคลิปวงจรปิดมาสอบสวน โดยนายบุญเที่ยงให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง สาเหตุที่ขโมยเพราะเห็นลูกชิ้นวางอยู่หน้าร้านไม่มีใครเฝ้า และร้านปิดแล้ว จึงเดินเข้าไปหยิบเอา ยอมรับหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวไม่ทัน ลูกชิ้นที่ได้ไปเอาไปทอดเป็นกับข้าวให้ลูกกิน ส่วนหนึ่งเอาไปฝากพ่อกับแม่ที่ป่วยอยู่ที่ อ.ลำปลายมาศ ตำรวจนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากไม่มีคนมาประกันตัว เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้คนแสดงความเห็นใจนายธง เป็นจำนวนมากเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และคาดว่าครอบครัวน่าจะยากจน แต่กฎหมายต้องดำเนินไปต่อตามกระบวนการ ล่าสุด ร.ต.อ.สุพจน์ ตึกกระโทก พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้ทำสำนวนส่งไปที่อัยการจังหวัดบุรีรัมย์วันนี้แล้ว เพราะจะครบกำหนดฝากขัง 48 วัน ร.ต.อ.สุพจน์ กล่าวยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีที่น่าเห็นใจ 

จากการสอบสวนและสืบสวน พบว่าครอบครัวมีฐานะยากจน มีพ่อแม่แก่และป่วยติดเตียง จริงแล้วส่วนตัวมองว่านายบุญเที่ยง ไม่มีเจตนาที่จะขโมย สังเกตจากสินค้าของร้านวางไว้ 2 ถุง แต่เอาไปถุงเดียว ผิดวิสัยของขโมยทั่วไปที่จะต้องเอาไปให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อเป็นคดีความที่ยอมไม่ได้จะต้องเดินต่อไป ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 57 บ้านโนนแดง หมู่ 5 ต.หนองกระทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายบุญเที่ยง ผู้ต้องหา พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสร้างยังไม่เสร็จในบ้านอยู่ด้วยกัน 3 คือพ่อ-แม่และพี่สาวนายบุญเที่ยง นายทอง พิทักษ์พันธุ์ อายุ 88 ปี พ่อนายบุญเที่ยง ยังนั่งอยู่หน้าบ้านอยู่ตลอดเวลา เมื่อสอบถามทราบว่า”กำลังรอลูกชายเอาอาหารมาให้”และไม่รู้ว่าลูกชายขโมยของมาให้กินจนถูกตำรวจจับได้ นางอุย พิทักษ์พันธุ์ อายุ 89 ปี แม่นายบุญเที่ยง ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และป่วยโรคไต บอกว่าปกติลูกชายจะเอาอาหารมาให้กินเป็นประจำ ครั้งล่าสุดเอาลูกชิ้นมาให้กินซึ่งลูกชายมาสารภาพว่า”ขโมยเขามาให้แม่กิน”หลังจากนั้นไม่เห็นลูกชายมาหาอีกเลย จนกระทั่งมีคนมาบอกว่าลูกชายถูกจับดังกล่าว ขณะที่นางพิมพ์พร พิทักษ์พันธุ์ อายุ 59 ปี พี่สาว นายบุญเที่ยว เล่าว่าน้องชายจะกลับบ้านอาทิตย์ละ 2 วัน หลังจากนั้นจะไปหากินอยู่ในตัวเมืองกับภรรยา หลังน้องชายถูกตำรวจจับไม่เคยได้ไปเยี่ยม เพราะต้องมีภาระดูแลพ่อแม่ซึ่งป่วยติดเตียง ส่วนพ่อแม่ได้แต่นั่งเฝ้าคอยลูกชายกลับมาหา
กำลังโหลดความคิดเห็น