นครศรีธรรมราช - ปลาหมอคางดำบุก อ.หัวไทร พบโผล่ทุกสายน้ำ ชาวบ้านระบุผลกระทบกว้างขวาง หว่านแหเจอแต่ปลาหมอคางดำ แต่เดิมพบน้อยลง เจ้าหน้าที่ระบุปลาชนิดนี้อยู่ได้ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ลำบางขนาดเล็กเส้นทางน้ำเข้าบ่อกุ้ง บ่อปูดำ ท้องที่หมู่ 9 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หลังจากชาวบ้านระบุว่า พบปลาหมอคางดำในทุกสายน้ำของอำเภอหัวไทรเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ทอดแหเพียงครั้งเดียวปรากฏว่าพบลูกปลาหมอคางดำนับร้อยตัว ปะปนกับลูกปลานวลจันทะเลเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และปลาหมอคางดำเหล่านี้มีความสมบูรณ์ อายุ 2-3 เดือน แม้จะตัวเล็ก แต่สามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว บางตัวมีไข่เต็มท้อง บางตัวอมลูกไว้ในปากตามลักษณะการเลี้ยงลูกของสายพันธุ์นี้
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีจุดระบาดที่สำคัญอยู่ที่ปากคลองชะอวด-แพรกเมือง ตำบลหน้าสตน โดยลำคลองสายนี้เป็นคลองพระราชดำริ ที่ระบายน้ำมาจากอำเภอชะอวด มาจนถึงหัวไทรออกทะเลที่ปากน้ำแพรกเมือง ปรากฏปลาชนิดนี้อยู่เป็นจำนวนมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือจะระบาดไปอยู่ในลำคลองลึกไปจนถึงเชียรใหญ่-ชะอวด แล้วหรือไม่
นายนันทวี แขกพงค์ ชาวหมู่ 9 ตำบลหน้าสตน ระบุว่า พบปลาชนิดนี้มาได้ราว 1 ปีแล้วและขยายเร็วมากจนน่ากลัว การทอดแหหาปลาและสัตว์น้ำของชาวบ้านพบว่ามีผลกระทบแล้วโดยเฉพาะกลุ่มปลากระบอก แต่เดิมมีอยู่อย่างชุกชุมในพื้นที่ปากน้ำ น้ำกร่อย แต่ทุกวันนี้เมื่อทอดแหไปปลากระบอกน้อยลงหรือไม่ได้เลย ทุกครั้งจะได้หมอคางดำมาแทน บางรายมีการหาปลาชนิดนี้มาขายให้ชาวประมงกลุ่มลอบปูเป็นหลัก นำมาทำเป็นปลาเหยื่อในลอบดักปูในกิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนที่มานั้นชาวบ้านไม่รู้เลยว่าเข้าสู่แหล่งน้ำในพื้นที่ได้อย่างไร
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานโครงการพระราชดำริ หรือ กปร. ระบุว่า สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างของปลาชนิดนี้คืออาศัยอยู่ได้ทั้ง 3 น้ำ ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เมื่อเทียบกับปลากระบอกจะอาศัยอยู่ที่ความเค็มประมาณ 20-25 PPM. แต่ปลาหมอคางดำอยู่ได้ที่ความเค็มสูงถึง 30 PPM. โดยในวันที่ 14 กรกฎาคม กปร.จะไปร่วมรับซื้อปลาหมอคางดำจากชาวบ้านที่จัดกิจกรรมกวาดล้างปลาหมอคางดำในพื้นที่อ่าง 180 ไร่บ้านหน้าโกฏ อำเภอปากพนัง รอยต่ออำเภอหัวไทร