โจทย์ใหญ่ 'เพื่อไทย' 'ก้าวไกล' คะแนนนำห่าง 'ทักษิณ' มาช่วยหรือซ้ำเติม

โจทย์ใหญ่ 'เพื่อไทย' 'ก้าวไกล' คะแนนนำห่าง 'ทักษิณ' มาช่วยหรือซ้ำเติม

แม้พรรคก้าวไกลกำลังอยู่บนเส้นด้ายเนื่องจากมีคดียุบพรรคที่จ่อคอหอยอยู่ แต่ในมุมหนึ่งกลับปรากฎว่า 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังคงมีคะแนนความนิยมเป็นอันดับที่หนึ่งมาตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบันตามผลสำรวจของ 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ รายไตรมาส ครั้งที่ 2-2567

'พิธา' ได้รับคะแนนร้อยละ 45.50 อันดับ 2 ร้อยละ 20.55 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 12.85 เป็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อันดับ 4 ร้อยละ 6.85 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ และ อันดับ 5 ร้อยละ 4.85 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร

ผลโพลที่ออกมานั้นทำให้ 'เศรษฐา' ยอมรับว่า มีหลายจุด และต้องยอมรับว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ และนโยบายหลักก็ยังไม่ได้คลอดออกไป งบประมาณเพิ่งใช้ได้ไม่ถึง 2 เดือนนี้เอง แต่ก็ไม่ได้อยากอ้างงบประมาณตลอดเวลา ทั้งนี้มองในเรื่องความมุ่งมั่นก็ต้องขอบคุณ แต่ท้ายสุดแล้วคือผลงานมากกว่าที่เราต้องยอมรับ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน แต่ทุกๆคำถามทุกๆโพลที่ออกมาเราก็น้อมรับ
ขณะที่ 'พิธา' แสดงความคิดเห็นต่อคะแนนที่ออกมาว่า "ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันทำโพล และให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลจะไม่ทำให้ทุกท่านต้องผิดหวัง และเป็นเครื่องเตือนใจให้ทำงานให้หนักขึ้น สมกับความคาดหวัง และยิ่งความคาดหวังมาก พวกเราก็ต้องทำงานหนักขึ้นให้เต็มที่"

เรื่องนี้คงเป็นโจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องไปขบคิดกันให้ออกว่าทำไมฝ่ายค้านที่ไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือถึงได้มีคะแนนความนิยมนำรัฐบาลมาตลอด1 ปี อีกทั้งผลสำรวจที่ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ที่อยู่ในลำดับที่ 2 นั้นก็เริ่มทิ้งห่างจากนายกฯเศรษฐามากขึ้นไปอีก รวมไปถึงข้อสำคัญที่ว่าการกลับมาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' ช่วยให้พรรคเพื่อไทยดีขึ้นจริงหรือไม่