รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - คณะของอดีตประธานรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี วันพุธ (19 มิ.ย.) เข้าเฝ้าผู้นำจิตวิญญาณทิเบต ทะไลลามะ ที่เมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศ พร้อมแสดงความปรารถนาว่าวันหนึ่งข้างหน้าทะไลลามะ และคณะจะสามารถเสด็จกลับคืนสู่ทิเบต และยังส่งสัญญาณว่า วอชิงตันพร้อมช่วยเหลือในการกดดันจีนให้กลับมาเจรจากับบรรดาผู้นำระดับสูงทิเบตที่หยุดพักไปนับตั้งแต่ปี 2010
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า ในการเข้าเฝ้าของคณะของอดีตประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ที่เดินทางมาภายใต้คณะร่วม 2 พรรค 7 คน โดยมีประธานคณะประธานด้านกิจการต่างประเทศประจำสภาล่างสหรัฐฯ ไมเคิล แม็คคอล เป็นผู้นำเกิดขึ้นที่เมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศ ในวันพุธ (19)
ซึ่งในการเข้าเฝ้าองค์ทะไลลามะผู้นำแห่งจิตวิญญาณทิเบต หัวหน้าคณะ ส.ส.สหรัฐฯ กราบทูลว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะลงนามในกฎหมายใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อกดดันจีนต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งกับทิเบต
ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ต้องการผลักดันให้ปักกิ่งกลับมาสู่โต๊ะเจรจากับบรรดาผู้นำทิเบตอีกครั้งหลังจากการเจรจาได้หยุดค้างไปตั้งแต่ปี 2010 เพื่อให้ได้ข้อตกลงทิเบต และผลักดันให้ปักกิ่งต้องออกมาตอบต่อความคาดหวังของชาวทิเบตต่อประเด็นด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และตัวตนทางภาษาศาสตร์
การเยือนรอบนี้ที่คาดว่าจะสร้างความไม่พอใจจากปักกิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนการเสด็จเยือนสหรัฐฯ ที่เป็นการกำหนดล่วงหน้าสำหรับการเสด็จเพื่อรับการถวายการรักษา รอยเตอร์ชี้
แม็คคอลหัวหน้าคณะ ส.ส.สหรัฐฯ ได้กล่าวในงานแถลงข่าวหลังการเข้าเฝ้าที่เมืองธรรมศาลาว่า “มันเป็นความคาดหวังของผมที่ว่าวันหนึ่งข้างหน้าพระองค์ และคณะจะสามารถเสด็จคืนไปยังทิเบตได้โดยสันติ”
เขากล่าวว่า ปักกิ่งพยายามจะผลักดันให้ตัวเข้าไปเป็นผู้มีอำนาจในการเลือกสรรผู้ที่จะสืบทอดอำนาจจากองค์ทะไลดามะแห่งทิเบต แต่ยืนกรานว่า “พวกเราจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นเช่นนั้น”
ซึ่งปัญหาผู้สืบทอดนั้นเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยปักกิ่งเคยกล่าวว่า ประเพณีต้องสืบทอดต่อไป และบรรดาแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการที่ไม่อิงศาสนามีสิทธิสามารถเลือกคัดสรรผู้สืบทอดเหมือนเช่นในอดีตที่จักรพรรดิจีนพระองค์ก่อนๆ ในอดีตเคยทรงปฏิบัติมา
ซึ่งประเพณีทิเบตกล่าวไว้ว่า องค์ทะไลลามะทรงจุติกลับชาติมาเกิดหลังความตายและผู้นำองค์ปัจจุบันได้กล่าวว่า ผู้สืบทอดของพระองค์นั้นอาจค้นพบในอินเดีย
ซึ่งทางคณะที่มาพร้อมกับอดีตประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี เดินทางมาถึงเมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศ ในวันอังคาร (18) และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเด็กนักเรียน พระภิกษุ และชีพราห์ม
เพลโลซี กล่าวว่า กฎหมายสนับสนุนทางออกต่อความขัดแย้งทิเบต-จีน (Promoting a Resolution to the Tibet-China Dispute Act) ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ นั้นเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนต่อมุมมองทางความคิดของสภาที่มีต่อปัญหาทิเบต
“กฎหมายนี้กล่าวต่อรัฐบาลจีนว่า ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้วในเวลานี้ และให้เตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งนั้น” เพโลซีกล่าวระหว่างท่ามกลางเสียงเชียร์ร่วมหลายร้อยคนจากชาวทิเบตในวันพุธ (19)
dw news ของเยอรมนีรายงานเพิ่มเติมว่า ในการพบกันที่ธรรมศาลา คณะของเพโลซียังมีโอกาสได้พบกับรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตเช่นกัน ซึ่งสำหรับนิวเดลีที่อินเดียในเวลานี้กำลังผจญกับคลื่นความร้อนมองทิเบตว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน แต่ทว่าได้อนุญาตให้องค์ทะไลลามะ และคณะรวมชาวทิเบตจำนวนหนึ่งสามารถลี้ภัยอาศัยในอินเดียได้
รอยเตอร์รายงานว่า ปักกิ่งที่เรียกองค์ทะไลลามะว่า เป็นพวกแบ่งแยกดินแดนที่อันตรายชี้ว่า มีความวิตกต่อการยกคณะ ส.ส.สภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่มาพร้อมเพโลซีในการดั้นด้นเพื่อบุกเยือนถึงเมืองธรรมศาลาที่ห่างไกลและกฎหมายใหม่ฉบับนี้
พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯ ไม่ให้ติดต่อกับสิ่งที่ปักกิ่งเรียกว่า “แวดวงทะไล” หรือ Dalai clique และกดดันไปยังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ไม่ลงนามในกฎหมาย
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จีนรู้สึกไม่พอใจต่อการมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ขององค์ทะไลลามะที่มีต่อเจ้าหน้าที่ของประเทศอื่นๆ ถึงแม้ว่าพระองค์ในอดีตจะได้ทรงพบกับเหล่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรวมไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเยือนอเมริกาครั้งก่อนๆ
แต่ทว่าไบเดนที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2021 ยังไม่เคยมีโอกาสเข้าเฝ้าผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบต แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้นำทั้งสองจะมีกำหนดการพบปะกันหรือไม่ในระหว่างการเสด็จเยือนสหรัฐฯ ภายในเดือนนี้