xs
xsm
sm
md
lg

คดียุบก้าวไกล และคดีเศรษฐา แนวโน้ม ลากยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



คดียุบก้าวไกล และคดีเศรษฐา แนวโน้ม ลากยาว

​คำร้องคดียุบพรรคก้าวไกล ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยื่นคำร้องขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจาก มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคก้าวไกล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตร 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
​มีแนวโน้มว่า ศาลรธน.อาจมีการเปิดห้องไต่สวนพิจารณาคดี เพื่อเรียกผู้ร้องและผู้ถูกร้อง คือพรรคก้าวไกลให้ถ้อยคำ กลางห้องพิจารณาคดีของศาลรธน.
​หลังพบว่า ผลการประชุมตุลาการศาลรธน.เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลรธน. มีคำสั่งให้ กกต.ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานต่อศาลภายในวันที่ 17 มิ.ย. โดยกำหนดนัดพิจารณาต่อไปในวันที่ 18 มิ.ย.

​โดยขณะนี้ พรรคก้าวไกล ได้ยื่นเรื่องขอให้ศาลรธน.เปิดห้องพิจารณาไต่สวนคำร้อง และยื่นบัญชีพยานบุคคลไปให้ศาลรธน.เรียกมาให้ถ้อยคำ โดยแกนนำพรรคก้าวไกลระบุว่ามีการยื่นไปหลายรายชื่อ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ

​เช่นเดียวกับคำร้องคดีกลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลรธน. วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง กรณีนำชื่อนายพิชิต ชื่นบาน ขึ้นทูลเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรี

​ซึ่งหลัง เศรษฐา ยื่นเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปให้ศาลรธน.เมื่อ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการขอขยายเวลาแต่อย่างใด

​ก็ปรากฏว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรธน.วันเดียวกันนี้ ก็มีคำสั่งให้คู่กรณียื่นบัญชีระบุหลักฐาน ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 17 มิ.ย. โดยกำหนดนัดพิจารณาในวันที่ 18

​ที่ทำให้มีความเป็นไปได้ ที่คดีนี้ ศาลรธน.ก็อาจเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดี โดยเรียกตัวแทนฝ่าย 40 สว.และฝ่ายนายกรัฐมนตรี ไปให้ถ้อยคำต่อศาลรธน. ซึ่งหากออกมาเป็นแบบนี้ ก็จะทำให้คดีนายเศรษฐา อาจใช้เวลาพอสมควรกว่าคดีจะสิ้นสุดลง และคงทำให้ วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกฯฝ่ายกฎหมาย ต้องติวเข้ม เศรษฐา หากต้องไปขึ้นให้ถ้อยคำต่อศาลรธน.

​แต่ที่จบก่อนคดีอื่น ก็คือ คำร้องกรณี ผู้สมัครสว. ร่วมกันยื่นคำร้องขอให้ศาลรธน.วินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 ,40 ,41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ กรณีที่ศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดีรวม 2 คำร้อง เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ. 2561 ในมาตราดังกล่าวขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญนูญหรือไม่

ซึ่งผลการประชุมตุลาการศาลรธน.วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 09.30 น.

​เท่ากับคดีสำคัญๆ ในชั้นศาลรธน. มีความคืบหน้าเป็นลำดับ แต่ยังไม่ถึงจุดพีก จะมีก็แค่ คดีตีความพรบ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ฯ ที่จะรู้ผลในวันอังคารที่ 18 มิ.ย. หลังการเลือกสว.ระดับจังหวัด ที่จะเลือกกันวันอาทิตย์นี้ 16 มิ.ย. ไปอีกสองวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น