xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ฟันอดีต ผบ.เรือนจำประจวบฯ ตั้งชมรมแม่บ้านนำอาหารขายในคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นางสาวจุฑารัตน์ เหลืองเพิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีกล่าวหานายสุทิน ชิดชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับพวกว่าทำการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปจำหน่ายภายในเรือนจำโดยมิชอบ

จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 29 กันยายน 2558 นายสุทิน ชิดชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งตั้งชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้น ทั้งที่ในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีการออกระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดตั้งชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำ และอนุญาตให้ชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลิตสินค้าเพื่อนำไปฝากขายในร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง โดยไม่มีการกำหนดจำนวนของสินค้า และไม่มีกฎหมายรองรับให้สามารถกระทำได้ และไม่มีการหักส่วนลดไม่เกินร้อยละ 8 ของสินค้าที่จำหน่าย เข้าเป็นรายได้ของร้านค้าสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นเงินรายได้ของทางราชการ

ชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 เป็นผู้บริหารจัดการเงินรายรับรายจ่ายทั้งหมดเพียงคนเดียว ไม่เคยมีการแบ่งปันผลกำไรให้กับผู้ที่ปรากฏชื่อในชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งผู้มีชื่อเข้าร่วมในชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ไม่ทราบเกี่ยวกับรายจ่ายหรือผลประกอบกิจการของชมรมฯ แต่อย่างใด จึงเป็นการดำเนินการของผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 เอง โดยอ้างชื่อชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนำเงินได้จากการจำหน่ายสินค้าไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของ นายสุทิน ชิดชอบ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็น เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเปีนความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2561 มาตรา 82 (1) (2) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1)

การกระทำของ นางศิริพร อริยสัจธรรม หรือไม่น้อย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวศานิตตรา พิมพ์นวลศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82 (2)

กระทำของ นางสาวปวีณา ศานต์ฤทัยกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 ฐานะเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91

สำหรับนายสาครินทร์ เชื้อนาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 5 เสียง เห็นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดทางอาญา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่การที่นายสาครินทร์ เชื้อนาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีฐานะเป็นผู้จัดการร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีหน้าที่บริหารจัดการร้านดังกล่าว รวมถึงการเบิกจ่ายเงินร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ทั้งยังเป็นผู้ดูแลรายได้จาการจำหน่ายสินค้า ไม่ดำเนินการหักส่วนลดสินค้าของนางสาวปวีณา ศานต์ฤทัยกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ไม่เกินร้อยละ 8 ของสินค้าที่จำหน่ายได้เข้าเป็นเงินรายได้ของทางราชการ จึงมีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82 (2)

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายสุทิน ชิดชอบ และนางสาวปวีณา ศานต์ฤทัยกุล และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายสุทิน ชิดชอบ นางศิริพร อริยสัจธรรม หรือไม่น้อย

นายสาครินทร์ เชื้อนาม และนางสาวศานิตตรา พิมพ์นวลสี ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป

ทั้งนี้ ให้แจ้งเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง