ยะลา - หนุ่มเพื่อนบ้านกระหน่ำยิงตำรวจหมดแม็ก หลังทวงถามเรื่องซ่อมรางน้ำไม่ให้ฝนสาดมาเป็นระยะเวลานาน แต่บ้านตำรวจยังซ่อมไม่เสร็จ ฟิวส์ขาดกลับไปเอาปืนมากระหน่ำยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาตำรวจมาเห็นเหตุการณ์คว้าปืนสามีไล่ยิงหนุ่มเพื่อนบ้านบาดเจ็บ
วานนี้ (11 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุด่วน สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน ภายในบ้านเลขที่ 3 ถนนสวนขวัญเมือง ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา จึงได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเข้าตรวจสอบตามบ้านเลขที่ที่ได้รับแจ้ง พร้อมประสานชุดกู้ชีพกู้ภัยเข้ารับตัวผู้บาดเจ็บ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนอยู่ภายในบ้าน โดยมีภรรยา และพี่สาวของผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการสอบถาม จึงทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ ด.ต.อนุชาต สนิทพันธ์ ผบ.หมู่ ตม.6 ยะลา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นเพื่อนบ้าน ชื่อนายธวัชชัย ศรีประชุม อายุ 38 ปี ซึ่งถูกกระสุนปืน ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุ พบตัวนายธวัชชัย ผู้ก่อเหตุ โดยพบว่ามีบาดแผลถูกยิงที่ขาซ้ายและสะโพก มีเลือดไหลอาบ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลยะลา เพื่อทำบาดแผล และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามไว้
จากการสอบถามพี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายธวัชชัย ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านใกล้กัน และมีปัญหาปากเสียงเรื่องรางน้ำกันมาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากรางน้ำที่บ้านชำรุด และเมื่อเกิดฝนตกทำให้น้ำฝนกระเด็นไปบ้านของนายธวัชชัย ซึ่งทางบ้านน้องชายเร่งซ่อมแซมเพื่อเคลียร์ปัญหาให้จบ แต่มันไม่จบ และนายธวัชชัย ผู้ก่อเหตุวนเวียนมาถามอยู่หลายครั้ง จนเมื่อเช้าเข้ามาถามน้องชาย และมีปากเสียงกันไปแล้ว
ตกบ่าย นายธวัชชัย เดินเข้ามาถามน้องชายอีกครั้งจนมีปากเสียงทะเลาะกัน และเห็นนายธวัชชัยกลับไปบ้าน ก่อนจะกลับมาพร้อมอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด และกระหน่ำยิงน้องชายจำนวนหลายนัดจนหมดแม็ก
ในระหว่างนั้นภรรยาของ ด.ต.อนุชาต มาเห็นจึงได้ใช้อาวุธปืนของสามียิงใส่นายธวัชชัยไปหลายนัดเหมือนกัน กระสุนน่าจะถูกอย่างน้อย 2 นัด ได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชุดพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าทำการตรวจสอบและเก็บหลักฐานพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงกล้องวงจรปิดภายในบ้าน และบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบการสอบปากคำผู้ก่อเหตุและพยานบุคคล โดยในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง