รอคำตอบจากผู้ว่าฯชัชชาติ ซื้อลู่วิ่งแพงกว่ายุค 'อัศวิน' พบตัวเลขสูงผิดปกติ 10 เท่า
'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร ทำงานมาครบ 2 ปี แต่ปรากฎว่าคนเมืองหลวงส่วนใหญ่จะจดจำเรื่องดราม่าเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนป้ายสติกเกอร์ที่เป็นแลนด์มาร์คบริเวณสี่แยกปทุมวัน พอมีกระแสวิจารณ์แรงขึ้นมา ทีมประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหาครก็ปล่อยของให้ประชาชนทั่วไปใช้รูปแบบตัวอักษรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเสาชิงช้าได้ฟรี จนกลายเป็นไวรัลดังในโลกออนไลน์
ถัดมาดราม่าเรื่องป้ายชื่อกรุงเทพมหานครดังกล่าว ก็มาสู่ข้อเท็จจริงที่ต้องการคำชี้แจงจากผู้บริหาร ภายหลังเฟซบุ๊กเพจ "ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย" โพสต์ข้อความระบุว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย แพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่า ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวละ 759,000 บาท และจักรยานตัวละ 484,000 บาท จากนั้นได้มีการขยายผลจากส.ส.กรุงเทพ ของพรรคก้าวไกล ที่แสดงให้เห็นว่าการจัดซื้อดังกล่าวมีความน่าสงสัยพอสมควร
นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 19 มกราคม 2567 ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงแล้ว 1 โครงการ (โครงการปี 65 สมัยผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง) ซึ่งพบว่ารายการที่ กทม. ซื้อนั้น แพงกว่าราคาตลาด (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปกเดียวกัน) โดยเฉลี่ยถึง 4 เท่า เลยขุดเพิ่มอีกหลายโครงการ และล่าสุดวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ให้ทาง กมธ.ติดตามงบประมาณ ส่งหนังสือตรงไปยังผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้ชี้แจง โครงการซื้อครุภัณฑ์ 10 โครงการ ช่วงปี 2565-2567 โดยเป็นโครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายรวม 9 โครงการ รวมมูลค่า 74 ล้านบาท เพราะต้องสงสัยว่าอาจมีการทุจริต เนื่องจากราคากลางที่ กทม. ใช้นั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่ากลัว (แพงกว่ายุคแรกๆ 3 เท่า จาก 254,000 บาท เป็น 759,000 บาท) ทำให้ราคาของที่ กทม. จัดซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5-10 เท่า โดยปัจจุบัน ทาง กทม. ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงกลับมายัง กมธ.ครับ
โดยสมัยผู้ว่าฯ อัศวิน (2559-2565) ผมจะมีข้อมูลเฉพาะตั้งแต่ปี 2562-2565 โดยมีการจัดซื้อราคาลู่วิ่งด้วยราคาตัวละ 254,000 บาท (ปี 62) แล้วมีการปรับราคากลางขึ้นมาเป็น 500,000 บาท (ปี 63) มีการปรับลงมาตัวละ 334,000 บาท (ต้นปี 65) พอมายุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ (2565-2567) ก็ปรับราคาขึ้นมาเป็น ตัวละ 518,000 บาท (ปี 65 ศูนย์มิตรไมตรี, ศูนย์เยาวชนจตุจักร และศูนย์เยาวชนเตชะวณิช) และตั้งแต่ปี 66 ราคาได้กลางกระโดดไปที่ ตัวละ 759,000 บาท โดยมีหลายโครงการที่ใช้ลู่วิ่งราคา 759,000 บาท ทั้งที่ศูนย์มิตรไมตรี ศูนย์วัดดอกไม้ ศูนย์วารีภิรมย์ ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ที่สำคัญในมีการล็อคผลงาน ทำให้ช่วงหลังๆ คนเสนอราคาแข่งกัน จะเป็นหน้าเดิมๆ 3 บริษัท
นายศุภณัฐ สรุปว่า นอกจากรายชื่อศูนย์ที่แจ้งข้างบนไป ศูนย์อื่นๆที่คาดว่ามีได้รับเครื่องออกกำลังกาย หลายรายการ ที่มีการจัดซื้อด้วยราคาสูงเกินราคาตลาด 5-10 เท่า ตั้งแต่ปี 62-67 จะมีที่ศูนย์เยาวชนดอนเมือง ศูนย์เยาวชนหนองจอก ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่ ศูนย์เยาวชนลุมพินี ศูนย์เยาวชนคลองสามวา ศูนย์เยาวชนทวีวัฒนา ศูนย์เยาวชนเกียกกาย ศูนย์เยาวชนชัยพฤกษมาลา ศูนย์เยาวชนอัมพวา
"แค่เฉพาะของปี 2566-2567 ก็ชัดเจนแล้ว ที่แปลกคือ คณะกรรมการจัดทำราคากลาง ผู้บริหาร กทม. สำนักงบ กทม. และสภา กทม. ไม่เอะใจซักคน ทั้งที่ของแบบนี้มันใช้ sense ก็รู้ว่าแพงเกินเหตุ ไม่ต้องใช้สมองเลย แต่ปล่อยมาหลายโครงติดๆ กัน เรื่องนี้ ปปช. สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมเข้า กทม. ครับ"
ต้องรอดูว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะเขย่ามาตรฐานความโปร่งใสของผู้ว่าฯกทม.แลนด์สไลด์ได้ขนาดไหน