เด้ง 'บิ๊กโจ๊ก' พ้นสตช. 'บิ๊กต่าย' มั่นใจทำถูกกฎหมาย ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ

เด้ง 'บิ๊กโจ๊ก' พ้นสตช. 'บิ๊กต่าย' มั่นใจทำถูกกฎหมาย ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ

ความคิดเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 2 ที่ระบุว่า การสั่งให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรอง ผบ.ตร. นายกรัฐมนตรี ต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันออกจากราชการไว้ก่อน ตามข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กำลังเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาว่า ณ วันนี้สถานะความเป็นข้าราชการตำรวจของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ยังอยู่ครบสมบูรณ์หรือไม่

ในประเด็นนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นว่า คำสั่งให้ออกจากราชการที่ผ่านมา ส่วนตัวไม่ได้พูดว่ามั่นใจในตัวคำสั่ง เพราะเป็นการพิจารณาตามที่ฝ่ายอำนวยการได้เสนอตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติปี 2565

พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า จากนี้จึงเป็นเรื่องระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากับสำนักนายกรัฐมนตรี ในทางกฎหมายเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการตามมาตรา 140 ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถให้คำนิยามคำนี้ได้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การที่กฤษฎีกาฯ ตีความประเด็นออกจากราชการกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการเพลี่ยงพล้ำหรือไม่ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ กล่าวว่าไม่เพลี่ยงพล้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนสถานะของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายการที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระบวนการต่างๆ พิจารณาตามกฎหมาย ถ้าถามว่าสถานะเป็นอย่างไร คำตอบคืออยู่ในกระบวนการปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ยังเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากคำสั่งออกจากราชการ

อยางไรก็ตาม ไม่หนักใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ให้จนถึงที่สุดให้ดี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในอนาคต