ความเขี้ยวเป็นเหตุ ศาลนัด ป.ป.ช. 4 มิ.ย. ส่งข้อมูลคดีนาฬิกา
ดูเหมือนว่าความกั๊กและความเขี้ยวของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เริ่มจะเห็นหอกทิ่มแทงตัวเองแล้ว ภายหลังศาลปกครองกลางนัดให้คู่กรณีระหว่างนายวีระ สมความคิด ผู้ร้อง และสำนักงานป.ป.ช. ผู้ถูกร้อง มาศาลวันที่ 4 มิถุนายน เพื่อมาสะสางปัญหาการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากป.ป.ช.ไม่ได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับคดีการยืมนาฬิกาครบตามที่ศาลมีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้
นายวีระ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า เจ้าหน้าที่จากศาลปกครองกลางมาด้วยตัวเอง เพื่อนำหมายมาเรียกคู่กรณีไปศาลปกครองในวันที่ 4 มิถุนายน โดยขอแจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีนำเอกสารที่ยังปกปิดและยังไม่ได้ส่งมอบ มามอบต่อหน้าศาลให้ถูกต้องตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่ 224/2566 ยกตัวอย่างเช่น มติการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. 1054-125/2561 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ที่ 3.1 สังกัดสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง รายงานผลการตรวจสอบยืนยันข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอกสารดังกล่าวนี้ผู้ถูกฟ้องคดียังปิดปิดยังไม่ยอมส่งมอบให้แก่ผู้ฟ้องคดี ดังนั้น ในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีนำเอกสารดังกล่าว ไปมอบให้แก่ผู้ฟ้องคดีต่อหน้าศาลด้วย นอกจากนี้ เชื่อว่ายังมีเอกสารทั้งสามรายการดังกล่วที่ยังปกปิดและยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่ผู้ฟ้งคดีอีกจำนวนหนึ่ง
นายวีระ ระบุว่า ที่สำคัญในวันดังกล่าว ขอให้นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการป.ป.ช.มีความกล้าหาญไปตามหมายเรียกของศาลด้วยตัวเอง อย่าส่งลูกน้องผู้หญิงซึ่งตอบอะไรไม่ค่อยได้ และไม่สามารถตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับการปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้ อย่าส่งลูกน้องไปอีกเลย เลขาธิการป.ป.ช.สมควรต้องไปด้วยตัวเอง แสดงความกล้าหน่อย