xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “อี๊ด สายไหม” ข่มขืนหลานสาววัย 7 ขวบ นานเกือบ 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “อี๊ด สายไหม” ผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนหลานสาววัย 7 ขวบ เป็นเวลาเกือบ 10 ปี อ้างถูกยั่วก่อน จึงเกิดอารมณ์

วันนี้ (28 พ.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก .สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.4 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาลร่วมกันจับกุมตัวนายหนูการณ์ พวงแก้ว หรืออี้ด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555 แขวงสายไหม เขตสายไหม จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.2010/2567 ลงวันที่ 2 พ.ค. 67 โดยกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย” จับกุมตัวได้ที่ บริเวณลานจอดรถหน้าบริษัททองไชย อุตสาหกรรม ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ น้องบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ถูกข่มขืนตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ เป็นเวลาร่วม 10 ปี ซ้ำร้ายมีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ด้วย โดยน้องบีผู้เสียหายได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตดังกล่าว ผ่านทางเพจสายไหมต้องรอด ว่า ตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยอยู่ย่านสายไหม จ.กรุงเทพฯ น้องบีถูก “ตาเลี้ยง” ใช้จังหวะที่ยายไม่อยู่บ้านลงมือข่มขืนอยู่เป็นประจำ โดยทุกครั้งจะไม่สวมถุงยางอนามัย ซึ่งความเลวร้ายที่สุดคือ ผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ได้ข่มขืนมาตั้งแต่น่องบีอายุ 7 ขวบ ตั้งแต่ที่อยู่ที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ขณะนั้นเธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า สิ่งที่ถูกกระทำนั้นคืออะไร รู้เพียงว่า เจ็บและกลัวมาก แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะถูกข่มขู่ห้ามบอกใคร ไม่งั้นจะถูกขังไว้ในเล้าเป็ดและพาไปขายซ่อง

โดยล่าสุดผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนผู้ก่อเหตุรายนี้ที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาและในปัจจุบันได้มีการออกหมายจับแล้ว ซึ่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามจับกุมตัว แต่การสืบสวนติดตามนั้นกลับกลายเป็นงานหิน เพราะผู้ต้องหานี้ทราบข่าวแล้วไหวตัวหลบหนีสุดชีวิต จนกระทั่งได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่า เคยเห็นผู้ต้องหารายนี้ขับรถรับจ้างบนถนนบูรพาวิถีบริเวณจุดรอรถริมถนนของห้างอีเกียร์บางนา แม้จะเลือนรางแต่ก็เป็นเบาะแสจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ ชุดสืบสวนใช้ความพยายามขับรถไปๆ มาๆ อยู่บนถนนบูรพาวิถีกว่า 3 วัน 3 คืน ไล่ดูหน้าคนขับแท็กซี่ รถตู้ และรถทัวร์ กินนอนกันบนรถอย่างไม่ย่อท้อ จนเมื่อเช้าของวันนี้ (28 พ.ค.) ได้พบกับรถทัวร์ซึ่งคนขับกำลังเปิดกระจกมาจ่ายค่าทางด่วน ใบหน้าอันคุ้นเคยที่ผ่านการจดจำมากว่า 3 วัน จึงมั่นใจว่าใช่แน่นอน ชุดสืบสวนจึงไล่ล่าติดตามตามรถทัวร์คันดังกล่าวไป กระทั่งไปจอดส่งพนักงานโรงงานที่ริมถนนใน จ.ฉะเชิงเทรา ชุดสืบสวนจึงบุกเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

ในชั้นจับกุม นายหนูการณ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า บ้านเกิดของตนอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี แต่พ่อและแม่มาทำงานที่กรุงเทพฯ จึงอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็ก ตนมีอาชีพขับรถเมล์โดยสารประจำทาง โดยได้วิชาจากพ่อที่มีอาชีพขับรถสิบล้อ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นตอนต้นปี 2567 ตอนนั้นตนยังขับรถเมลล์ร่วมบริการสาย 34 เมื่อเลิกจากงานจึงชักชวนหลานเลี้ยงมาคุยเล่นกันจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จนทนไม่ไหวได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการข่มขืน แต่เพราะหลานเลี้ยงมายั่วตนก่อน ส่วนเรื่องที่เป็นข่าวว่าตนนำเชื้อ HIV ไปติดหลานเลี้ยงนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยตรวจเลือดและไม่มีอาการของโรค HIV และไม่อยากที่จะตรวจ ส่วนโรคประจำตัวจะเป็นก็แค่โรคความดันต่ำ คดีนี้ตนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าได้มีอะไรกับหลานสาวทั้งหมด 6 ครั้ง หลังเกิดเรื่องตนโทรไปเคลียร์แล้วแต่เคลียร์ไม่รู้เรื่อง และมีการออกข่าวเรื่องราวนี้ ตนจึงหลบหนีไปกบดานอยู่แถวสมุทรปราการ และได้แฝงตัวเข้าไปเป็นลูกจ้างรายวัน (คนขับรถทัวร์) โดยใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ สวมหมวก สวมแว่นเพื่อปิดบังอำพลางมิให้ใครรู้ ใช้ชีวิตกินนอนในปั๊มไม่นอนที่พัก แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุม ตอนถูกจับกุมยอมรับว่าหน้ามืดจะเป็นลมเพราะคิดว่าตนเองหนีได้แล้วไม่คิดว่าจะมาถูกจับกุม

โดยภายหลังจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ทั้งนี้พบประวัติผู้ต้ิงหาเคยถูกจำคุกราว 2 ปี ตั้งแต่ 11 มิ.ย. 57 ถึง 12 พ.ค. 59 ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองและเสพฯ” พื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผมขอให้กำลังใจสำหรับน้องผู้เสียหาย จงเข้มแข็งและหากไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร ก็จงอยู่เพื่อตัวเอง เราจับกุมคนร้ายคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียหายแล้ว ขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ก้าวเดินไปอย่างเข้มแข็ง สำหรับผู้ต้องหาหลังจากนี้ก็ต้องไปชดใช้กรรมและรับบทลงโทษในสิ่งที่ตนก่อ ในรูปแบบที่เรียกว่ากระบวนการยุติธรรม เรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทั้งต่อตัวเด็กต่อสังคม กระผมมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันสอดส่อง ดูแล ช่วยเหลือกัน เป็นหูเป็นตาให้กันเพื่อช่วยกันปกป้องดูแล เพื่อไม่ให้ลูกหลานของเรา ต้องตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเหมือนดังที่ผมเคยได้กล่าวไว้ว่า ประชาชนคือตำรวจ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนหากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.






กำลังโหลดความคิดเห็น