ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุมานกองปราบร่วมกับตำรวจภาค 9 เปิดปฏิบัติการเทคดาวน์มาเฟีย ล้างบางอิทธิพลเถื่อน ลุยค้น 11 เป้าหมาย 15 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลาและพัทลุง รวบผู้ต้องหาคดีฆ่า “หมี ป่าบอน” คนสนิท “แป้ง นาโหนด” ได้ทั้ง “เชษฐ์ ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์ พร้อมกำนันฑูรย์ กับตำรวจระดับสารวัตร สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ปมสางแค้นถูกลูบคมยกพวกมาทวงหนี้
วันนี้ (28 พ.ค. 67) เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ลานเอนกประสงค์เทศบาลเมืองกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 รวมกว่า 120 นาย เปิดปฏิบัติการ TAKEDOWN MAFIA กวาดล้างอิทธิพลเถื่อนซุ้มมือปืนภาคใต้ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้า 11 เป้าหมาย 15 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.สงขลา 10 จุด และพัทลุง 5 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าจำนวน 9 หมายจับ
เป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นในครั้งนี้คือผู้ต้องหาในคดียิงนายประศาล คงนุ่น หรือ "หมี ป่าบอน" อายุ 54 ปี ผู้รับเหมา ใน จ.พัทลุง คนสนิทของนักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "แป้ง นาโหนด" เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ริมถนนในหมู่บ้านห้วยปลิง ม. 4 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 25 ก.พ. โดยใช้ทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่ม
จุดแรกที่เข้าตรวจค้น คือบ้านในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของ นายกรรัก ก่อฤกษ์คณิน หรือ “เชษฐ์ ปาดัง” อายุ 43 ปี นักการเมืองท้องถิ่น เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาฯ ที่ 2422/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค. 2567 ข้อหา"ร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"
เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด บนกำแพงบ้านมีการต่อสายไฟปล่อยไฟฟ้าเพื่อป้องกันผู้บุกรุก และมีกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่จึงตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัว แต่ภายในบ้านกับมีการซุ่มมองลงมาและปิดไฟภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงใช้คีมขนาดใหญ่ตัดกุญแจรั้วบ้าน เมื่อเห็นดังนั้น นายกรรักได้รีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น โดยนายกรรัก แจ้งว่า ภายในบ้านมีลูก เมีย และป้า ก่อนเข้าตรวจค้น พบอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 4 กระบอก เป็นอาวุปืนสั้น 2 กระบอกและปืนยาวอีก 2 กระบอก
จากการสอบสวน นายกรรักให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นบ้านพักอีก 1 หลังของนายกรรัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ควนลัง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
เป้าหมายสำคัญอีกจุดอยู่ใน ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านพักของนายไพฑูรย์ ย้อยอัด หรือ “กำนันฑูรย์” อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้ ซึ่งเป็นคนช่วยจัดหากลุ่มมือปืนมาก่อเหตุ โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายไพฑูรย์นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้โดยไม่ขัดขืน พร้อมเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบ้านพัก
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนเข้าทำการตรวจค้นบ้านอีกหลังใน ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน ซึ่งเป็นบ้านพักของ พ.ต.ท.ปัญญา ย้อยอัด สว.(สอบสวน) สภ.ปากพะยูน ญาติของนายไพฑูรย์ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหามือปืนเช่นเดียวกัน โดยทันทีที่ไปถึงพบ พ.ต.ท.ปัญญานอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงหมายจับก่อนเข้าทำการจับกุมตัวได้เช่นเดียวกัน
ต่อมาเป็นบ้านใน ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แหล่งที่กบดานของนายธีรพงษ์ หนูแทน อายุ 34 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุ กับนายธีระพงศ์ หรือเอ็ม สงเคราะห์ อายุ 32 ปี คนขับรถพาไปก่อเหตุ จุดนี้นำโดย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ แต่เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิด ตั้งติดอยู่ใกล้กับแนวป่า ทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่เร่งติดตามไปอย่างใกล้ชิด ก่อนตามจับกุมนายธีระพงศ์ หรือ “เอ็ม” ได้ 1 ราย ส่วนนายธีรพงษ์ มือปืนนั้นอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้
หลังการจับกุมตัวนายธีระพงศ์ได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขยายผลตรวจยึดรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง คันที่ใช้วันก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี
และอีกจุดได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่ ต.จังโหลน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยจับกุมนายยจุรนันท์ คงจินดามณี คนชี้เป้า โดยจับกุมได้บริเวณคอกหมูใกล้กับบ้านพัก และจากการสอบสวนเบื้องต้นก็ยอมรับสารภาพและงานนี้ได้ค่าจ้าง 4,000 บาท
สำหรับคดีสังหารนายประศาล คงนุ่น หรือ "หมี ป่าบอน" จากแนวทางสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประศาลได้รับงานเป็นคนกลางไปทวงเงินนายกรรัก ก่อฤกษ์คณิน หรือ “เชษฐ์ ปาดัง” เลขานุการนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ และยังเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการหนึ่งในรัฐสภา มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับนักการเมืองระดับประเทศ
ระหว่างที่ทวงเงินกัน ทั้งสองได้มีปากเสียงกัน สร้างความไม่พอใจให้แก่นายกรรักเป็นอย่างมาก นายกรรักจึงได้ติดต่อให้นายไพฑูรย์ ย้อยอัด หรือ “กำนันฑูรย์” คนสนิท ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.พัทลุง ให้จัดหามือปืนมาสังหารผู้ตาย
หลังจากรับงาน นายไพฑูรย์จึงได้ให้ พ.ต.ท.ปัญญา ย้อยอัด สว.(สอบสวน) สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเอง จัดหามือปืน โดยผ่าน นายกิตติกร (สงวนนามสกุล) ให้ช่วยจัดหามือปืนให้อีกทอดหนึ่ง ก่อนมีการว่าจ้างกลุ่มมือปืนมารับงานก่อเหตุ
ในวันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่ากลุ่มมือปืนดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันลงมืออย่างชัดเจน ตั้งแต่คนทําหน้าที่ปลอมตัวไปตรวจสอบผู้ตาย คนชี้เป้าให้แก่ผู้ที่ทําหน้าที่สังหาร จนก่อเหตุได้สําเร็จ