รอวัน 'เศรษฐา' ตกเก้าอี้ ก้าวไกล ดัน 'พิธา' ชิงนายกฯ เมินจับมือ 'เพื่อไทย'
นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ40ส.ว.ไว้พิจารณา ถือว่าสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองพอสมควร เพราะเริ่มมีการพูดแล้วว่าหากนายเศรษฐา ทวีสิน เกิดอุบัติเหตุต้อฝตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีขึ้นมา จะเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะการจับมือตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล
มาถึงตอนนี้มีคำตอบออกมาจากพรรคก้าวไกลชีดเจนแล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ โดยเป็นการยืนยันจากนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล
นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่มีโอกาสพรรคก้าวไกลจะจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย คิดว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งกันในทางการเมือง อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งยังมีความชอบธรรมที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
หัวหน้าพรรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากเกิดความไม่ชัดเจนแน่นอนและอาจกลายเป็นเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลในช่วงนี้ โดยเฉพาะการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และหากวินิจฉัยออกมาไม่เป็นผลดีต่อนายเศรษฐา แน่นอนว่าจะต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะทำให้เสถียรภาพทางการเมืองมีปัญหา และกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
" ประเด็นที่ สว. ร้อง อาจจะเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เห็นด้วยมากนัก ที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาว่าใครสุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีความแน่นอนทางกฎหมาย และอาจจะสุ่มเสี่ยงในอนาคต อย่าคิดถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้าว่านายกรัฐมนตรีถูกวินิจฉัยแล้วผิด ฝ่ายค้านจะได้ประโยชน์ แต่เราต้องคิดถึงระยะยาวว่าข้อกล่าวหาทำนองนี้ถูกใช้ได้กับทุกฝ่าย เหมือนจริยธรรมทางการเมืองที่เราไม่เห็นด้วย เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้วินิจฉัยว่าจะให้คุณค่าแบบไหน" นายชัยธวัช กล่าว