เกิดเหตุถังออกซิเจนระเบิดในบ้านพัก ย่านหนองแขม ทำคนงานถูกแรงระเบิดจนร่างขาด 2 ท่อน เสียชีวิต
วันนี้ (23 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม ได้รับแจ้งเหตุถังออกซิเจนระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านพัก ซอยเพชรเกษม 77/8 แยก 3 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และทีมแพทย์ฉุกเฉิน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างประตู หลังบ้านติดถนน พบเศษเหล็ก และเศษถังสำหรับบรรจุออกซิเจนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง ขณะเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัณฑิต อายุ 30 ปี โดยผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพลำตัวขาดครึ่งท่อน ส่วนถังที่ระเบิดกระเด็นไปไกล 100 เมตร ถูกบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียง ได้รับความเสียหาย 3-4 หลังคาเรือน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังออกซิเจนขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปไว้ที่โรงงานย่านสมุทรสาคร แต่ในระหว่างการขนย้ายถังดังกล่าว เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยแรงอัดทำให้ถังกระเด็นอัดร่างผู้ตาย จนกระเด็นออกมานอกบ้านก่อนจะเสียชีวิต
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม ระบุว่า ผู้ตายเป็นลูกจ้าง และพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว และบ้านหลังนี้เป็นสถานที่เก็บถังเปล่า โดยมีถังอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้านอาสาสมัครกู้ภัย เปิดเผยว่า เบื้องต้น ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานกำลังขนถังออกซิเจนลงมาจากรถ แล้วเกิดการกระแทกพื้นปูนซีเมนต์จนเกิดการระเบิด สภาพร่างของผู้เสียชีวิตกระจายเป็นชิ้นส่วนหลายชิ้น เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันเก็บนำมารวมไว้ เพื่อรอให้แพทย์นิติเวชมาชันสูตร ส่วนในร้านที่เกิดเหตุมีร่องรอยจากเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไว้ตรวจสอบแล้ว
ขณะที่นายชัยวัฒน์ วรพจนพิสุทธิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุในช่วงเกิดเหตุ เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ใช้เป็นที่ที่เก็บถังออกซิเจนอย่างเดียว โดยลูกน้องจะนำรถวิ่งออกไปส่งตามโรงพยาบาล แล้วจะนำถังกลับเข้าเก็บที่บ้านหลังนี้ทุกวัน ไม่ได้มีการเชื่อมเหล็ก หรือการอัดก๊าซในพื้นที่ ใช้เป็นที่เก็บของอย่างเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่เกิดการระเบิดนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม กำลังเร่งดำเนินการสอบสวน โดยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุเพื้อหาข้อเท็จจริงต่อไป