ดับไฟใต้ต้องหลายมิติ อันวาร์ สาและ สอนมวย แค่ลงพื้นที่แก้ปัญหาไม่ได้

ดับไฟใต้ต้องหลายมิติ อันวาร์ สาและ สอนมวย แค่ลงพื้นที่แก้ปัญหาไม่ได้

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความรุนแรงที่หลายฝ่ายต้องจับตาอีกครั้ง หลังจากเกิดความไม่สงบ 6 จุดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส คาบเกี่ยวกับช่วงเวลาการประชุมเชิงปฏิบัติการ เวิร์กช็อปครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างคณะพูดคุยสันติสุขของรัฐบาลไทยและฝ่ายเทคนิคของขบวนการ BRN ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ถึงขนาดที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องหารือกับพล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก โดยตรงทันที และเตรียมลงพื้นที่หลังจากเสร็จภารกิจในต่างประเทศ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าวว่า การแก้ไขปัญหานี้นายกฯจะสนใจหรือให้ความสำคัญกับปัญหาเมื่อเกิดปัญหาหรือการก่อเหตุ เฉพาะหน้าเฉพาะสถานการณ์ไม่ได้ การที่นายกฯเตรียมลงพื้นที่ภาคใต้อีกครั้ง จะต้องมาพบหลายๆฝ่ายและต้องให้โอกาสให้เวลากับฝ่ายต่างๆและปัญหาด้วย เช่น การพูดคุยภาคประชาสังคม ตัวแทนผู้นำในทุกมิติ รวมถึงผู้นำธรรมชาติตัวแทนชาวบ้าน

"การแก้ปัญหาความมั่นคงที่ส่วนตัวผมเห็นว่าควรใช้มาตรการความมั่นคงให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นแต่ใช้มิติทางความเป็นอยู่ที่ดีเรื่องปากท้องคุณภาพชีวิตให้มากและช่วยมิติการทำงานของฝ่ายความมั่นคงในตัวต้องเห็นใจข้าราชการทุกฝ่ายในพื้นที่ด้วยครับ เขาคือตัวแทนรัฐ เป็นมือไม้ในการทำงาน ทุกฝ่ายต้องทำงานด็วยความระมัดระวังมากต่างจากข้าราชการในภูมิภาคอื่นๆ"

"ท่านมี ส.ส. ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนส่วนใหญ่จากพรรคประชาชาติ มิติปัญหาในพื้นที่มิติความเป็นธรรมสำคัญย่างยิ่งยวดและมีความใกล้ชิดอย่างมากกับผู้นำและพรรคเพื่อไทย ก็หวังว่าจะเป็โอกาสและความได้เปรียบในการแก้ปัญหาพื้นที่ และตัวแทนจากพลังประชารัฐก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยเช่นกัน ขอให้รัฐบาลใช้องคาพยพต่างๆ ให้เต็มความสามารถในการแก้ปัญหา และอย่าลืมถามชาวบ้านพี่น้องประชาชนด้วยนะครับว่าเขาต้องการการแก้ปัญหาในแบบไหน ว่าเขาต้องการแบบไหนเพราะอำนาจประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดคือประชาชนเป็นใหญ่ หวังว่าคงไม่มองข้ามไปนะครับ" นายอันวาร์ กล่าว