สกลนคร - สาวสกลนครช้ำใจ พูดคุยคบหาหนุ่มพิษณุโลกเกือบปี ถูกขอยืมเงินด้วยสารพัดเหตุผล ถึงขั้นวิดีโอคอลอ้างเจ้าหนี้เก่าจับแก้ผ้าขู่ทำร้าย เลยสงสารโอนเงินให้หลายครั้งหลายครารวมแล้วกว่า 550,000 แต่ทวงไม่ยอมคืน
ยันให้ยืมเพราะสงสารไม่ใช่รัก ฝากบอกหากมีสำนึกให้คืนเงินด้วย ล่าสุดแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.สกลนครได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาว จ.สกลนคร อ้างว่าตนถูกชายหนุ่ม ชื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาว จ.พิษณุโลก แต่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทอยู่ที่ จ.ชลบุรี ทำทีเข้ามาตีสนิทผ่านเพื่อนตนในลักษณะศึกษาดูใจไปสู่การคบหากันเป็นแฟนเมื่อช่วงต้นปี 2566 ภายหลังจากพูดคุยกันผ่านวิดีโอคอลประมาณ 6 เดือน จึงนัดพบกันและเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น ต่อมานายเอเอ่ยปากขอยืมเงินครั้งแรก 8,000 บาท ด้วยเหตุผลต้องนำไปดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง อ้างจะคืนให้สิ้นเดือนสุดท้ายก็ไม่ได้คืน กระทั่งแม่ของนายเอเสียชีวิตกะทันหัน นายเอจึงหายไประยะหนึ่งที่ จ.ชลบุรี
น.ส.ฟ้ากล่าวว่า ช่วงประมาณเดือน มีนาคม 67 ได้มีโอกาสกลับมาคุยกับนายเออีกครั้ง ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะคุยแล้วรู้สึกถูกคอ จึงชักชวนกันมาหางานที่ จ.สกลนคร นายเอเลยได้ทำงานที่ไม่ไกลจากตนในที่ จ.สกลนคร ด้วยเหตุผลที่นายเอย้ายที่อยู่ใหม่และเพิ่งเสียแม่ไปมาอยู่ที่ จ.สกลนคร นายเอได้เอ่ยปากขอยืมเงินตนเพื่อไปลงทุนเช่าพระเครื่อง โดยยืมไป 3 ครั้ง ด้วยความเชื่อใจจึงโอนไปให้ ครั้งละ 3-4 หมื่นบาท รวมแล้ว 110,000 บาท พอมาถึงช่วงเวลานี้ตนเริ่มถอยแล้วเพราะรู้สึกเสียเงินมากไปเพราะเขาเริ่มไม่ไปทำงาน
จนที่ทำงานพักงานและเขาเลือกที่จะไม่ไปทำงานแล้วหายไปโดยบอกว่ากำลังไปศึกษาดูงานอยู่ที่จังหวัดหนึ่ง จากนั้นจึงตัดสินใจทักไปหาเขาเพราะหายไปนาน เขาบอกว่าเขาเดือดร้อนไปไหนไม่ค่อยได้เจ้าหนี้ติดตามตัวอยู่จึงโอนไปให้อีกครั้งเพื่อช่วยเหลือ
น.ส.ฟ้าบอกอีกว่า หลังจากนั้นมานายเอบอกอีกว่ายังมีหนี้เงินกู้อีก 1 สัญญาและตอนนี้ถูกเจ้าหนี้ที่กู้ยืมเงินไปจับตัวไว้ต้องรีบหาเงินมาชดใช้ไม่อย่างนั้นจะถูกทำร้ายร่างกาย ขณะนั้นนายเอถูกจับถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนในห้องมืดๆ และมีเสียงลักษณะข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย ตนก็ใช้เวลาพิจารณาอยู่ประมาณ 1 วัน 1 คืน ประกอบกับมีเพื่อนของนายเอโทรศัพท์มาบอกอีกด้วยว่านายเอถูกจับตัว ด้วยความตกใจและสงสารเกรงว่าจะถูกทำร้ายจึงตัดสินใจโอนเงินให้ไปจำนวน 110,000 บาท และนายเอก็ใช้เหตุการณ์ลักษณะนี้มาอ้างขอยืมเงินกับตนครั้งละหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน กระทั่งสูญเงินไปกว่า 550,000 บาทในระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน
น.ส.ฟ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความทุกข์อีกว่า ตอนนี้ตนอยู่ในสถานะสิ้นเนื้อประดาตัว แถมยังมีหนี้ที่ไปหยิบยืมมาให้นายเออีกนับแสนบาท ถ้านายเอยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างก็อยากให้เอาเงินมาคืน ขณะนี้เดือดร้อนและทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ยืนยันที่ให้เงินไปไม่ใช่เพราะรักแต่เพราะสงสาร เนื่องจากนายเอใช้วิธีการอ้างว่าจะถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ตนน่าจะถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน
“จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าเรื่องเงินเรื่องทองนั้นหากเจอลักษณะนี้หรือมีท่าทีแปลกๆ เข้ามาหาให้พิจารณาปรึกษาครอบครัวให้ดี เพราะปัจจุบันการหลอกลวงคนอื่นมาทุกรูปแบบ เช่น กรณีของดิฉัน ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและเตรียมดำเนินคดีนายเอให้ถึงที่สุด แม้จะเปลี่ยนชื่อหลบหนีก็ตาม” น.ส.ฟ้ากล่าว