นักวิชาการข้องใจ 40 สว.รักษาการ ขยันเกินเบอร์ ฝากรอยเท้ารุกไล่รัฐบาล สอยนายกฯ ข้อหานามธรรม จี้ถามสํานึกปฏิรูปประเทศคืบหน้าถึงไหน ชี้โอกาสหวาดเสียว 50-50 ถึงขั้นเปลี่ยนนายกฯ วนลูปวุ่นวาย
นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจําสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกรณี 40 สว. ร่วมกันเข้าชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ เพราะใช้อํานาจนายกฯแต่งต้ังรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติความซื่อสัตย์ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมว่า ในแง่มุมกฎหมาย สว.สามารถทําได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ในแง่ของความเหมาะสม คงมีคําถามกับ สว.ชุดนี้ที่หมดวาระไปแล้ว ขณะนี้รักษาการอยู่ ควรทําหน้าที่เฉพาะเท่าที่จําเป็นหรือไม่ การรุกไล่ตรวจสอบต่อเนื่องมาจากการขอเปิดอภิปรายรัฐบาลตามมาตรา 153 ก็ถูกต้ังข้อสงสัยมากมายถึงมาตรฐานการทําหน้าที่ต่อรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลชุดก่อน เราลืมไปกันเลยว่าภารกิจสําคัญของสว.ชุดนี้ที่ปวารณาตัวเข้ามาคือการปฏิรูปประเทศ ถามว่าได้ทํากันไปถึงไหนแล้ว สว.ชุดนี้ควรกลับไปทบทวนตัวเองหลังหมดหน้าที่
ส่วนประเด็นที่ยื่น วินิจฉัยคุณสมบัติน้ัน ความจริงตําแหน่ง สําคัญระดับนี้ใครไปใครมาจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นรอบคอบอยู่แล้ว กรณีดังกล่าวไม่พบความผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง เป็นเรื่องของการละเมิดอํานาจศาล นายพิชิตไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ น่าเห็นใจว่าไม่มีโอกาสได้ยื่นอุทธรณ์ด้วย สําหรับข้อหาของสว.ค่อนข้างเป็นนามธรรม พิสูจน์ยาก ช่วงหลังมีการดําเนิน การลักษณะนี้อย่างแพร่หลายในแวดวงการเมืองจนกลายเป็นความวุ่นวาย ถูกมองว่านํามาใช้เป็นเครื่องมือ
นายยุทธพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องเดินทางไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พร้อมมีรายงานข่าวว่าวันที่ 23 พ.ค.นี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมพิจารณาคําร้องของ 40 สว. ก็คงออกได้ 2 ทางคือ 1.ไม่รับคําร้อง 2.รับคําร้อง ถ้ารับแล้วก็จะมีประเด็นต่อไปว่านายกฯรวมทั้งรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ อันนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สําหรับรัฐบาลก็ดี นายกฯก็ดี รัฐมนตรีก็ดี สิ่งที่ต้องทําตอนนี้คงมีเพียงแค่เตรียมข้อมูลหลัก ฐานที่เกี่ยวพันข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองว่าโอกาสที่จะออกมาดีร้าย 50-50 และแน่นอนว่าหาก ผลลัพธ์เป็นลบร้ายแรงถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกฯ การเมืองก็จะวนลูปย้อนกลับไปสู่ความวุ่นวายเหมือนตอนต้ังรัฐบาล ใหม่ๆ เต็มไปด้วยการต่อรอง จับขั้ว ดูดสส. แต่น่าจะยุ่งเหยิงหนักกว่า เสถียรภาพการเมืองจะหลุดสมดุล ส่งผลสะเทือนเศรษฐกิจ คําถามก็จะย้อนกลับไปถามสว.ชุดนี้ว่าปฏิรูปประเทศแบบไหน