xs
xsm
sm
md
lg

“แม่น้องไนซ์” ยังเดินฟ้องเอาผิดผู้ที่ทำให้เสียหายอีกหลายราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สุราษฎร์ธานี - “แม่น้องไนซ์” เดินหน้าฟ้องร้องตรงศาล เอาผิดกับผู้ที่ทำให้เสียหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ในส่วนของทนายความ “น้องไนซ” สั่งไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ให้เดินหน้าทำคดีอย่างเดียว

จากกรณีกลุ่มนิมิตรเทวาจุติที่นำโดยแม่นกและทนายธรรมราช สาระปัญญา ได้เดินทางเข้าแจ้งความและดำเนินคดีต่อนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ พม. ในข้อหา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อพนักงานสอบสวนโรงพักเมืองสุราษฎร์ธานี ล่าสุด วันนี้ (16 พ.ค.) ได้มีกระแสข่าวลือออกมามากมายว่าทางเจ้าหน้าที่ พม. ได้ยื่นเรื่องขอใช้อำนาจศาลในการเข้าสอบปากคำน้องไนซ์ และศาลมีคำสั่งออกมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเข้าสอบปากคำตัวน้องไนซ์

ล่าสุด แม่นก ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังไปรับ “น้องไนซ์” กลับจากโรงเรียน ว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปศาลเด็กและเยาวชน เพื่อขอคัดสำเนาของน้องไนซ์ ที่ขึ้นเบิกความต่อศาล ในฐานะผู้ฟ้องร้องสื่อไป 1 สื่อ เพื่อต้องการนำสำเนาคำเบิกความต่อหน้าบัลลังก์เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาไปมอบให้พนักงานอัยการ เพื่อประกอบการพิจารณาในการที่จะมีหน่วยงานรัฐนำเอกสารมาร้องขอใช้อำนาจศาล โดยอ้างว่าทางตัวน้องและครอบครัวมีปัญหาในการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนขอยืนยันว่าการที่จะไปตรวจน้องหรืออะไรก็แล้วแต่มันต้องมีเหตุผลที่จะให้ไปตรวจ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ มาสั่งให้นำน้องไปตรวจมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

แม่นก ได้ขอเล่าบรรยากาศการเบิกความของน้องไนซ์ ต่อหน้าบัลลังก์ศาล ในขณะที่มีการเบิกพยานในฐานะน้องเป็นผู้ร้องให้ผู้สื่อข่าวฟังบางช่วงบางตอน โดยทางผู้พิพากษา ได้ถามว่าประสงค์ที่จะไปคุยอีกห้องหนึ่งหรือไม่เพราะน้องยังเป็นเด็ก ซึ่งตัวน้องไนซ์ ได้ตอบไปว่าไม่เป็นไรสามารถนั่งเบิกความในสถานะเหมือนผู้ใหญ่ได้เลย โดยบรรยากาศการเบิกความพูดคุยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยมีทนายฝ่ายจำเลยมีการซักถามในส่วนที่มีข่าวลือออกมาว่าศาลมีคำสั่งให้มาสอบปากคำน้องไนซ์นั้นน่าจะเป็นการออกมาพูดเท็จรายวันของคนกลุ่มหนึ่ง

ส่วนกรณีแจ้งความดำเนินคดี 157 ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีเมื่อวานนี้ ทางเราได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ พม.อีก 2 คน ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีพฤติกรรมหรือมีส่วนร่วมในการพูดข่มขู่

ซึ่งในวันนี้วันเปิดเรียนวันแรกตัวน้องไปโรงเรียนตามปกติไม่มีแรงกดดันอะไรที่โรงเรียน ในส่วนบรรยากาศในการเบิกความมีช่วงหนึ่งท่านผู้พิพากษาถามน้องเอาคำสอนมาจากไหน น้องตอบว่าคำสอนที่น้องถือมาตัวน้องเป็นตัวแทนพูดถือธรรมคำสอนที่ได้มาเป็นภูมิรู้ที่ติดตัวมา ท่านถามว่าคำสอนนี้เป็นยังไงมาจากไหน น้องตอบว่าเป็นคำสอนจากองค์พระศากยมุนี และมีคำถามว่าน้องเคยเป็นพระพุทธเจ้าไหม น้องยืนยันว่าน้องไม่เคยพูด ส่วนเรื่องการเชื่อมจิต คืออะไร น้องตอบเชื่อมต่อยอดขจัดเคลียร์ ผู้พิพากษาถามว่าแล้วหมายความว่าอย่างไร น้องอธิบายว่าคำว่าต่อยอดในเรื่องของการปฏิบัติธรรมคือการทำสมาธิ ผู้พิพากษาถามเชื่อมคืออะไร น้องตอบว่าเชื่อมก็คือเชื่อมระหว่างจิตเทพและมนุษย์ โดยใช้แสงแห่งธรรมเป็นตัวเชื่อม ขจัด เป็นการขจัดสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งในการเบิกความต่อหน้าบัลลังก์ของน้องไนซ์ และทางครอบครัวได้ขอคัดสำเนาและขออนุญาตอ่านเผยแพร่คำเบิกความให้รับทราบทั่วไปศาลท่านอนุญาต สวนทนายความนั้นทางน้องไนซ์ สั่งไม่ให้ทนายความให้สัมภาษณ์สื่อให้เดินหน้าทำเรื่องฟ้องศาลต่อผู้ที่ทำให้ตนเสียหาย

แม่นก กล่าวอีกว่า ความจริงก็คือความจริงพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม การที่น้องเบิกความต่อศาลด้วยตนเองในฐานะที่เป็นผู้ร้องจะเป็นบทพิสูจน์เดียวว่าในการที่มีบุคคลไปอ้างว่าแม่กระซิบบอกให้น้องพูดหรืออะไรก็แล้วแต่ตรงนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมรับรู้ว่าที่มีกลุ่มบุคคลพูดในเรื่องเท็จต่างๆ นั้นเป็นเรื่องไม่จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น